ความแตกต่าง เทรดหุ้นไทย กับเทรด forex ผลกำไร ขาดทุน อย่างไร
หุ้นไทย ในตลาดหุ้นมีประมาณ 600 รายชื่อขึ้นไป หรือ บริษัท ลูกค้าต้องเลือกที่จะถือหุ้นในบริษัท ที่มีผลประกอบการดี มีความมั่นคง สินค้า บริการ มียอดขาย และกำไรที่ดี บริหารงานแบบธรรมาภิบาล
บริษัทมีผลกำไร จะปันผล ออกมาเป็นเงินสด หรือ หุ้นเพิ่มขึ้น สามารถถือครองได้ในระยะเวลานาน
แนวคิด คือ ซื้อถูกขายแพง , หุ้นลงซื้อ หุ้นขึ้นขาย , ซื้อหุ้นที่ราคาเหมาะสม , ซื้อหุ้นที่ได้ปันผลสูง , ถือยาว ได้กำไรมากกว่า ถือสั้น
ขาดทุน เพราะ ไม่สามารถถือยาวได้ , ดูงบการเงินไม่เป็น , ไม่เข้าใจธุรกิจนั้น ๆ , กังวลกลัวราคาหุ้นลงอีก , ไม่สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ (cut loss)
ข้อดี คือ มีความปลอดภัย สามารถซื้อ ขาย เป็นเงินสดได้ สภาพคล่องสูง
ถ้าหุ้นราคาตก ไม่ขายไม่ขาดทุน เพราะสามารถซื้อเพิ่มได้ ซื้อเฉลี่ย หรือจะ stop loss แล้วซื้อกลับเข้าใหม่ หรือจะเปลี่ยนไปถือตัวอื่นแทนก็ได้
กฎหมายไทย รับรองและคุ้มครอง ผู้ถือหุ้น และมีการตรวจสอบสม่ำเสมอ จากทาง ก.ต.ล.
เทรด forex เป็นการจับคู่ค่าเงิน (เช่น USD , EUR , GBP เป็นต้น) ทองคำ โลหะเงิน น้ำมัน
ถ้าค่าใดเพิ่มขึ้น อีกค่าจะลดลง เช่น 1 eur มีค่าแลกได้ usd 1.10 , เมื่อมีเหตุการณ์ในยุโรปไม่ดี ทำให้ค่าเงิน eur อ่อนลง จะเป็น 1 eur มีค่าแลกได้ usd 1.09
แนวคิด คือ เทรดตามปัจจัย ที่จะทำให้ขึ้นหรือลง , เทรดตามข่าว , เทรดตามกองทุน , forex ไม่มีปันผล ไม่จำเป็นต้องถือยาว เล่นสั้น ๆ เป็นส่วนใหญ่
การเปิดสัญญา ซื้ออยู่กับเงินทุนที่ได้ลงไว้ สามารถเปิด 0.01 lot หรือมากกว่า 1 lot ได้ตามความเหมาะสม
ถ้าเทรดถูกทาง จะได้กำไรไปเรื่อยๆ แต่ถ้าผิดทางให้ stop loss หรือต้องฝากเงินเพิ่ม เพื่อไม่ได้ล้างพอร์ต
ข้อดีของ forex คือ ได้เข้าใจสถานการ รอบโลก ว่า ตัวใดขึ้น หรือ ลง ตลอดเวลา เพราะต้องตามข่าวสารตลอด
เงื่อนไข ต่าง ๆ อยู่ภายใต้โบรเกอร์ที่ผู้เทรดได้สมัครไว้ แต่โบรเกอร์นั้น ๆ ได้จดทะเบียนการค้าที่ต่างประเทศไว้แล้ว
กฏหมายไทย ไม่ได้คุ้มครอง เพราะสำนักงานส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ ถ้าโบรเกอร์ปิดกระทันหัน ก็ไม่ได้สามารถถอนเงินได้
สมัครเทรดได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
สรพล
jun_jao2000@hotmail.com