JunJao.Com ตอบคำถาม คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต การเขียนโปรแกรม Forex MT4 MT5

ตลาดหุ้น set ตลาดล่วงหน้า tfex forex Exness FBS XM => FBS แนะนำการเปิดบัญชี ฝาก ถอน การติดตั้งโปรแกรม ข่าวสาร โปรโมชั่น => ข้อความที่เริ่มโดย: junjao ที่ พฤศจิกายน 02, 2018, 05:52:18 PM

หัวข้อ: FBS เทรดตามเทรนด์ vs เทรดสวนเทรนด์
เริ่มหัวข้อโดย: junjao ที่ พฤศจิกายน 02, 2018, 05:52:18 PM
FBS เทรดตามเทรนด์ vs เทรดสวนเทรนด์

สมัคร FBS ได้ที่ https://fbs.co.th/?ppu=473001

15:31 22.10.2018

หลักการของการวิเคราะห์ทางเทคนิคประการหนึ่งคือราคาเคลื่อนไหวเป็นเทรนด์ ทุกเทรนด์ประกอบด้วยช่วงระยะเวลาที่ราคามีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่เป็นแนวโน้ม และมีช่วงระยะเวลาสั้นๆที่มีการเคลื่อนไหวสวนทางเพื่อปรับเทรนด์กลยุทธ์การติดตามเทรนด์หมายความว่าเทรดเดอร์เปิดออเดอร์ในทิศทางเดียวกันกับเทรนด์ใหญ่ หรือพูดง่ายๆก็คือ เปิด Buy ในเทรนด์ขาขึ้น และเปิด Sell ในเทรนด์ขาลง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าตลาดด้วยวิธีนี้คือเมื่อการย่อตัวของราคาสิ้นสุดลงแล้วไปต่อตามเทรนด์หลัก เช่นเดียวกับคำพูดติดปากของเทรดเดอร์ที่ว่า "ซื้อถูกๆแล้วขายแพงๆ" ส่วนเทรดเดอร์สายสวนเทรนด์จะไม่รอให้การย่อตัวผ่านไป ถ้าตลาดมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น พวกเขาจะ Sell เมื่อราคากลับตัวจากแนวต้านและกำหนดเป้าหมายไว้ที่แนวรับ แรงจูงในการเข้าตลาดของพวกเขาคือราคานั้นจะต้องมีการกลับตัวเนื่องจากมีการดีดตัวขึ้นสูงเกินไป วิธีการทั้งสองวิธีนี้มีความเสี่ยงเหมือนกันหรือเปล่า? แล้ววิธีไหนล่ะที่ได้กำไรดีกว่ากัน?

เทรดตามเทรนด์

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่สามารถระบุได้ว่าเทรนด์ปัจจุบันคือเทรนด์อะไร แต่ส่วนที่ยากคือการตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อ มาดูกันในตัวอย่างของเทรนด์ขาขึ้น การเทรดตามเทรนด์คือการที่คุณอาจเลือกที่จะซื้อที่แนวรับหรือซื้อที่ราคาที่ทะลุแนวต้าน ในกรณีแรก คุณจะใช้เครื่องมือสองอย่างคือการตีเส้นเทรนด์และ Fibonacci retracement ส่วนในกรณีที่สอง คุณสามารถใช้รูปแบบการต่อเนื่องของกราฟ เช่น triangles, flags, และ wedges

Screenshot_14.png

เทรดเดอร์บางคนจะเข้า Buy ที่จุด 1 (เส้นแนวรับ และระดับของ Fibonacci retracement) หรือ 2 (จุดทะลุของกราฟรูปแบบ "Flag") บางคนอาจจะรอถึงจุดที่ 3 (จุดที่ราคาทะลุราคาสูงสุดก่อนหน้า) ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งคุณซื้อถูกมากเท่าไหร่ คุณยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น

Take profit - คุณสามารถตั้งเป้ากำไรที่ราคาสูงสุดก่อนหน้าของเทรนด์ขาขึ้น (หรือราคาต่ำสุดก่อนหน้าสำหรับเทรนด์ขาลง) หรือจะตั้งเป้าไกลไปเลยถ้าคุณมั่นใจ

Stop Loss - โปรดทราบว่าเมื่อคุณขี่เทรนด์ คุณสามารถใช้ trailing stop ตามหลังเทรนด์ได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณควรระวังไว้หน่อยเพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจว่าคุณจะเลื่อน Stop Loss ไปไว้ตรงไหน เพราะความเสี่ยงคือหากมีเกิดการกลับตัวของราคาแล้ววื่งมาชน Stop Loss ของคุณแล้วออเดอร์ของคุณก็จะอาจถูกปิดได้

Scaling in - เมื่อคุณกำลังไปตามเทรนด์หากตลาดวิ่งไปในทิศทางที่คุณต้องการคุณก็สามารถเพิ่มออเดอร์เข้าไปได้อีก แล้วคุณจะได้รับกำไรมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมปรับการควบคุมความเสี่ยงของคุณตามไปด้วย หรืออีกเทคนิคที่จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับคุณได้คือคุณเริ่มเปิดออเดอร์เล็กๆก่อน (เช่น Buy ที่จุดที่ 1) หากราคาวิ่งไปถึงจุดที่ 2 ก็ค่อยเพิ่มออเดอร์เข้าไปอีก

เทรดสวนเทรนด์

กลยุทธ์การเทรดสวนเทรนด์นั้นเน้นมองหาจุดกลับตัวของราคา เทรดเดอร์ที่ใช้วิธีนี้จะหาสัญญาณจากรูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียน (เช่น pin bars, evening/morning stars และอื่นๆ) พวกเขาจะใช้อินดิเคเตอร์กลุม Oscillator เช่น MACD หรือ RSI เพื่อมองหาว่าตลาดเข้าถึงจุดซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปหรือยัง และเกิด divergence ระหว่างราคากับอินดิเคเตอร์หรือไม่ ซึ่งถ้าสัญญาณเหล่านี้ปรากฏ เทรดเดอร์จะทำการเปิดออเดอร์สวนเทรนด์ปัจจุบัน

Screenshot_15.png

เทรดเดอร์อาจตัดสินใจ SELL ที่จุดที่ 1 เนื่องจากแท่งเทียนเกิดไส้ด้านบนยาวๆ (สัญญาณลบ) และ MACD ไม่ได้ยืนยันความสูงของราคา

Take profit - ค่อนข้างยากที่จะตั้งจุดเก็บกำไรที่แน่นอนเพราะคุณกำลังเทรดสวนเทรนด์ ความท้าทายในการตั้งจุดคือต้องไม่โลภมาก จำไว้ว่าคุณกำลังเล่นสวนทางกับตลาด บางทีตลาดที่เป็นเทรนด์อาจจะเปลี่ยนเป็น sideways ซึ่งจะทำให้กำไรของตำแหน่งสวนเทรนด์ถูกจำกัดลง หรือที่แย่กว่าคือตลาดที่เป็นเทรนด์อาจจะย่อตัวนิดหน่อยแล้วไปต่ออย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรมีความระมัดระวังและจัดการความเสี่ยงของคุณด้วย

Stop Loss - จุดตัดขาดทุนของการเทรดวิธีนี้ง่ายมากๆ เพียงวางไว้เหนือหรือต่ำกว่าจุดที่มีการกลับตัวขึ้นอยู่กับเทรนด์ที่เทรด ความเสียหายจาก stop loss ในวิธีนี้จะน้อยกว่าที่เกิดจากการเทรดตามเทรนด์

Scaling in - หากคุณเทรดสวนเทรนด์ก็ไม่ควรไปยุ่งกับ position size เพราะบางทีการเทรดที่เกิดขึ้นจะเป็นการเทรดที่สั้นมาก ซึ่งถ้าคุณเพิ่ม position เข้าไปอีกคุณอาจจะตกที่นั่งลำบากได้ และหากคุณไม่ยอมตัดขาดทุนคุณอาจจะพบกับความเสียหายครั้งใหญ่

บทสรุปดังที่คุณทราบแล้วว่าวิธีการเทรดทั้งสองวิธีจะมีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งสองวิธีอาจจะให้สัญญาณการซื้อขายที่ดีได้ แต่ยังไงคุณต้องมีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงสำหรับทั้งสองวิธีด้วย โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะรู้ว่าการเทรดสวนเทรนด์นั้นต้องอาศัยประสบการณ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นสำหรับมือใหม่ควรเริ่มจากการเทรดตามเทรนด์ไปก่อน หมั่นฝึกฝนแล้วค่อยดูว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณ

สรพล
jun_jao2000@hotmail.com
x [close]
x [close]