**Mobile Application Development** หรือ **การพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ** คือกระบวนการสร้างซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานบนอุปกรณ์พกพา เช่น **สมาร์ตโฟน** หรือ **แท็บเล็ต** ซึ่งแอปเหล่านี้สามารถทำงานได้ทั้งแบบ **ออนไลน์** และ **ออฟไลน์** ก็ได้
---
### รูปแบบของแอปมือถือ
1. **Native App**
- พัฒนาเฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น iOS (ใช้ Swift/Objective-C), Android (ใช้ Kotlin/Java)
- ข้อดี: ประสิทธิภาพสูง ใช้งานฟีเจอร์ของเครื่องได้เต็มที่
- ข้อเสีย: ต้องพัฒนาแยกสำหรับแต่ละระบบ
2. **Cross-platform App / Hybrid App**
- พัฒนา 1 ครั้ง ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android เช่น ด้วย **Flutter**, **React Native**, **Ionic**
- ข้อดี: ประหยัดเวลาและงบประมาณ
- ข้อเสีย: บางครั้งเข้าถึงฟีเจอร์เฉพาะของเครื่องได้น้อยกว่าพวก Native
3. **Progressive Web App (PWA)**
- เขียนด้วยเว็บเทคโนโลยี (HTML, CSS, JavaScript) และทำงานคล้ายแอป
- ข้อดี: ไม่ต้องลงแอปในเครื่อง
- ข้อเสีย: จำกัดฟีเจอร์บนบางระบบ
---
### ขั้นตอนทั่วไปของการพัฒนา Mobile App
1. **วางแผนและออกแบบ UX/UI**
2. **เลือกเทคโนโลยี (Native หรือ Cross-platform)**
3. **พัฒนาและทดสอบ (Development & Testing)**
4. **เผยแพร่ลง App Store / Google Play**
5. **ดูแลและอัปเดต**
---
### เครื่องมือยอดนิยม
- **Flutter** (จาก Google) – เขียนด้วยภาษา Dart
- **React Native** (จาก Meta/Facebook) – ใช้ JavaScript
- **Android Studio** – พัฒนาแอป Android แบบ native
- **Xcode** – พัฒนาแอป iOS แบบ native
----------------------------------------