จั่นเจาดอทคอม ถามตอบ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต Forex MT4 MT5 เทรดทอง

Comment แสดงความคิดเห็น (Register) => Comment แสดงความคิดเห็น (Register) => Topic started by: junjao on June 30, 2025, 01:25:27 AM

Title: ประวัติการสร้าง รถยนต์ Mercedes-Benz S-Class และต้นทุนงานวิจัย
Post by: junjao on June 30, 2025, 01:25:27 AM
รถยนต์ **Mercedes-Benz S-Class** เป็นหนึ่งในรุ่นที่สำคัญที่สุดของ Mercedes-Benz ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความหรูหรา ความปลอดภัย และเทคโนโลยีล้ำสมัย S-Class เปรียบเสมือนเวทีเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ภายหลังถูกนำไปใช้ในรุ่นอื่นของค่าย มาดูประวัติการสร้างและต้นทุนด้านงานวิจัยและพัฒนากัน:

---

## 🕰� ประวัติการสร้าง S-Class

### 1. **ต้นกำเนิดก่อนชื่อ S-Class**

* ในช่วงก่อนปี 1972 Mercedes-Benz ผลิตรถซีดานหรูหลายรุ่น เช่น **W180, W111, W108/109** ที่วางรากฐานแนวคิดสำหรับ S-Class
* ยังไม่มีการเรียกอย่างเป็นทางการว่า "S-Class" แต่ถือเป็นรถหรูอันดับสูงสุดของค่ายในยุคนั้น

### 2. **W116 (1972–1980): S-Class รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ**

* W116 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ชื่อ "S-Class" อย่างเป็นทางการ (S ย่อมาจาก "Sonderklasse" = "ชั้นพิเศษ")
* เป็นรถยนต์รุ่นแรกในโลกที่ติดตั้ง **ABS (ระบบเบรกกันล้อล็อก)** ในปี 1978
* เน้นด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

### 3. **W126 (1979–1991): ความสำเร็จระดับโลก**

* ออกแบบให้มีโครงสร้างที่ทนทาน เบาขึ้น และประหยัดน้ำมัน
* แนะนำถุงลมนิรภัย (airbag) และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
* มียอดขายมากกว่า 800,000 คัน

### 4. **W140 (1991–1998): ความใหญ่โตและหรูหราสุดขีด**

* มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เช่น หน้าต่างและที่นั่ง
* รุ่นนี้พัฒนาในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ถูกวิจารณ์เรื่องความหรูหราฟุ่มเฟือยเกินไป
* เป็นรุ่นแรกที่ใช้ระบบ **ESP (Electronic Stability Program)**

### 5. **W220 (1998–2005): เบาขึ้นและทันสมัย**

* กลับมาเน้นน้ำหนักเบา และดีไซน์เรียบหรู
* ติดตั้งระบบ **AIRMATIC** และ **COMAND System** (infotainment รุ่นแรก)

### 6. **W221 (2005–2013): สมรรถนะและเทคโนโลยีล้ำยุค**

* ระบบ Night Vision, Adaptive Cruise Control, และระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน
* ยกระดับความปลอดภัยขั้นสูง

### 7. **W222 (2013–2020): หรูหราทุกมิติ**

* รุ่นแรกที่ไม่มีรุ่น Coupé หรือ Cabriolet แยกต่างหาก (พัฒนาเป็น Mercedes-Benz S-Class Coupé/Convertible แยกชื่อ)
* ใช้ระบบไฟหน้าแบบ LED ทั้งหมด 100%

### 8. **W223 (2020–ปัจจุบัน): ยุคดิจิทัล**

* ใช้แพลตฟอร์ม MRA-II
* หน้าจอ OLED, ระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (ระดับ 3)
* ติดตั้งระบบ **MBUX 2.0** และรองรับ OTA (Over-The-Air updates)

---

## 💰 ต้นทุนด้านงานวิจัยและพัฒนา (R\&D)

Mercedes-Benz ลงทุนด้าน R\&D อย่างมหาศาล โดยเฉพาะในรุ่น S-Class ซึ่งเปรียบเสมือน "โชว์เคสเทคโนโลยี" ของแบรนด์

* **W223 (2020)**:

  * มีรายงานว่าต้นทุนพัฒนาเฉพาะใน S-Class เจนเนอเรชันนี้รวมกันกว่า **2 พันล้านยูโร** (ประมาณ 75,000 ล้านบาท)
  * รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์ม MRA-II และซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งหมด

* **R\&D ของ Daimler AG (บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz):**

  * มีงบ **วิจัยและพัฒนา** อยู่ที่ประมาณ **9-10 พันล้านยูโรต่อปี** (ข้อมูลจากรายงานประจำปี)
  * สัดส่วนมากจะเน้นไปที่รถยนต์ระดับสูงอย่าง S-Class, EVs (เช่น EQS), และระบบอัตโนมัติ

* Mercedes ใช้ S-Class เป็นพื้นฐานในการทดลองและเปิดตัวระบบต่างๆ ก่อนจะนำไปใช้กับรุ่นอื่น เช่น:

  * ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Pre-Safe Brake)
  * ระบบกันสะเทือนแบบ E-Active Body Control
  * ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 (Drive Pilot)

----------------------------------