News:

Exness ลูกค้าใหม่รับฟรี เสื้อ exness มีจำนวน 10 ตัว ขนาด L , XL , 2XL

เทรดครบ 1 Lot Standard รับ 1 ตัว แจ้งมาที่ Line : junjaocom

ถึง 30 ธ.ค. 2568 นี้ ส่งฟรี รหัสพาร์ทเนอร์ 73208

เปิดบัญชี Standard ลิงค์ตัวแทนได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

Main Menu

Recent posts

#21
คำว่า **"ไม้กอล์ฟแบบ Draw"** หรือที่เรียกกันว่า **"Draw bias driver / Draw driver"** คือไม้กอล์ฟ (โดยเฉพาะไม้ไดร์ฟเวอร์) ที่ **ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักกอล์ฟตีลูกให้โค้งกลับมาทางซ้าย** (สำหรับคนถนัดขวา) หรือพูดง่าย ๆ คือ **ช่วยแก้ปัญหาการตี "Slice"**

---

### 🏌��♂️ สรุปแบบเข้าใจง่าย

| รายการ          | รายละเอียด                                                       |
| --------------- | ---------------------------------------------------------------- |
| 🔧 จุดประสงค์   | ช่วยให้ลูกบอลโค้งกลับเข้าทางซ้าย (ลด Slice)                      |
| 🎯 เหมาะกับ     | คนที่ตีลูกออกขวาบ่อย (Slice)                                     |
| ⚙️ วิธีการทำงาน | น้ำหนักท้ายไม้ถูกย้ายไปทางส้นไม้ (heel) และหน้าไม้หันปิดเล็กน้อย |
| 🪶 ผลลัพธ์      | ทำให้หน้าไม้ปิดเร็วขึ้นตอนกระทบลูก → ลูกหมุนขวา-ซ้าย (draw spin) |
| 🏌� ท่าทีเวลาตี | ไม่ต้องเปลี่ยนวงสวิงมาก เพียงใช้ไม้ draw ก็ช่วยให้ลูกไม่ออกขวา   |

---

### 📐 ตัวอย่างเปรียบเทียบ

| ประเภทไม้                       | ลักษณะลูกที่ออก      | เหมาะกับใคร    |
| ------------------------------- | -------------------- | -------------- |
| **ไม้ธรรมดา (Neutral driver)**  | ลูกวิ่งตรง (ถ้าตีดี) | คนที่สวิงสมดุล |
| **ไม้ Draw (Draw bias driver)** | ลูกโค้งซ้าย (Draw)   | คนที่ชอบ Slice |
| **ไม้ Fade bias**               | ลูกโค้งขวา (Fade)    | คนที่ชอบ Hook  |

---

### 💬 ตัวอย่างไม้ Draw Driver ที่มีขายจริง (ปี 2025)

* TaylorMade Qi10 Max Draw
* Callaway Paradym Ai Smoke Max D
* Ping G430 SFT (Straight Flight Technology)
* Cobra Darkspeed Max Draw

-------------------------------------

ดีมากครับ คำถามนี้สำคัญมากเลยสำหรับคนที่อยากเข้าใจวงสวิงเชิงลึก 🏌��♂️
เรามาแยกให้เห็นภาพง่าย ๆ ระหว่าง **ลูก Draw** กับ **ลูก Fade**
(โดยอธิบายสำหรับคน "ถนัดขวา" เป็นหลักนะครับ)

---

## 🎯 สรุปความต่างระหว่างลูก Draw vs Fade

| รายการ                                | **ลูก Draw**                               | **ลูก Fade**                                |
| :------------------------------------ | :----------------------------------------- | :------------------------------------------ |
| 🔄 ทิศทางลูก                          | เริ่มออกขวาเล็กน้อย แล้วโค้งกลับซ้าย       | เริ่มออกซ้ายเล็กน้อย แล้วโค้งกลับขวา        |
| ⚙️ การหมุนของลูก (Spin)               | หมุนจากขวา → ซ้าย                          | หมุนจากซ้าย → ขวา                           |
| 🎯 เป้าหมายหลัก                       | เพิ่มระยะและลด Slice                       | ควบคุมทิศลูกให้อยู่ในแฟร์เวย์               |
| 🧭 เส้นทางวงสวิง (Swing Path)         | จาก **ใน → ออก** (Inside-Out)              | จาก **นอก → ใน** (Outside-In)               |
| 🎯 หน้าไม้ตอนปะทะลูก (Clubface angle) | หน้าไม้ **ปิดนิด ๆ** เมื่อเทียบกับเส้นสวิง | หน้าไม้ **เปิดนิด ๆ** เมื่อเทียบกับเส้นสวิง |
| 📈 ทิศลูกเริ่มต้น                     | ออกขวาเล็กน้อย                             | ออกซ้ายเล็กน้อย                             |
| ⚡ ระยะที่ได้                          | ไกลกว่า (ลูกพุ่งต่ำกว่าและกลิ้งเยอะกว่า)   | สั้นกว่าเล็กน้อย แต่คุมง่ายกว่า             |
| 🧩 เหมาะกับใคร                        | คนที่ Slice บ่อย                           | คนที่ Hook บ่อย                             |

---

## 📐 ภาพรวมเชิงเทคนิค (สำหรับคนถนัดขวา)

### 🔸 ลูก **Draw**

```
เส้นสวิง:   → (จากในออกขวา)
หน้าไม้:   หันซ้ายกว่านิดหน่อย
ลูกบอล:   ออกขวา → โค้งกลับซ้าย → กลางแฟร์เวย์
```

### 🔹 ลูก **Fade**

```
เส้นสวิง:   ← (จากนอกเข้าซ้าย)
หน้าไม้:   หันขวานิดหน่อย
ลูกบอล:   ออกซ้าย → โค้งกลับขวา → กลางแฟร์เวย์
```

---

## 💡 เคล็ดลับจำง่าย

* "**Draw** = ใน → ออก" → ลูก **โค้งซ้าย**
* "**Fade** = นอก → ใน" → ลูก **โค้งขวา**

---

## 🧠 เพิ่มเติม

* **Draw** มักให้ระยะมากกว่า เพราะ spin น้อยกว่า ลูกวิ่งกลิ้งไกล
* **Fade** ให้การควบคุมแม่นกว่า โดยเฉพาะเมื่อต้องเล็งไปแฟร์เวย์แคบหรือหลบสิ่งกีดขวาง

-------------------------------------------
#22
ความเร็วของ **ลูกแบดมินตัน (Shuttlecock Speed)** จะถูกกำหนดเป็น "หมายเลขสปีด" (Speed Number) ซึ่งแสดงถึง **ระยะทางและความเร็วที่ลูกลอยได้** โดยขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและระดับความสูงของสนามแข่งขันครับ

---

### 🏸 **มาตรฐานความเร็วลูกแบดมินตัน (Speed Number)**

โดยทั่วไปจะมีหมายเลขตั้งแต่ **75 ถึง 79** (หรือบางแบรนด์ถึง 80)

| หมายเลขสปีด | ความเร็ว          | เหมาะกับอุณหภูมิ | ลักษณะการใช้งาน                                      |
| ----------- | ----------------- | ---------------- | ----------------------------------------------------- |
| **75**      | ช้าที่สุด        | > 33°C          | ใช้ในที่อากาศร้อนมาก (ลูกจะลอยไกลเกินไปถ้าใช้สปีดสูง) |
| **76**      | ค่อนข้างช้า      | 27–33°C          | ใช้ในอุณหภูมิร้อน                                    |
| **77**      | ปานกลาง (มาตรฐาน) | 22–28°C          | **ความเร็วที่นิยมที่สุด** เหมาะกับอุณหภูมิทั่วไปในไทย |
| **78**      | ค่อนข้างเร็ว      | 16–22°C          | ใช้ในประเทศอากาศเย็น หรือห้องแอร์เย็นจัด              |
| **79**      | เร็วมาก          | < 15°C          | ใช้ในพื้นที่หนาวเย็นหรือที่สูง                        |
| **80**      | เร็วสุด (หายาก)  | อุณหภูมิต่ำมาก  | ใช้เฉพาะในการทดสอบหรือสภาพแวดล้อมพิเศษ                |

---

### 🧭 **หลักการเลือกสปีดลูกแบด**

1. **อุณหภูมิสูง → ใช้สปีดต่ำกว่า (ลูกลอยไกลอยู่แล้ว)**
2. **อุณหภูมิต่ำ → ใช้สปีดสูงกว่า (ลูกลอยไม่ค่อยไป)**
3. **ระดับความสูงเหนือทะเลมาก → ใช้สปีดต่ำกว่า**

---

### 💡 ตัวอย่างลูกแบดยอดนิยมในไทย

| ยี่ห้อ  | รุ่นยอดนิยม          | สปีดที่นิยมใช้ |
| ------- | -------------------- | -------------- |
| Yonex  | Aerosensa 30 / 40    | 77            |
| RSL    | Classic Tourney No.1 | 77            |
| Victor  | Master No.1          | 77            |
| Li-Ning | A+ 90 / A+ 300      | 77            |

---------------------------------

ลูกแบดมินตัน โดยเฉพาะ "ลูกขนไก่" (Feather shuttlecocks) จะมีการระบุค่า "Speed" (ความเร็ว) ไว้ที่หลอดหรือบนตัวลูก เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสถานที่ครับ

เหตุผลที่ต้องมีหลาย Speed ก็เพราะว่า **ความหนาแน่นของอากาศ** มีผลต่อการบินของลูกแบดมินตัน
* **อากาศร้อน / ที่สูง (อากาศเบาบาง):** ลูกจะพุ่งเร็วและไปได้ไกลกว่าปกติ จึงต้องใช้ลูกที่ "ช้าลง" (เบอร์น้อย)
* **อากาศหนาว / ที่ต่ำ (อากาศหนาแน่น):** ลูกจะต้านอากาศและบินได้ช้าลง จึงต้องใช้ลูกที่ "เร็วขึ้น" (เบอร์มาก)

---

### 🏸 Speed ของลูกขนไก่ (Feather)

ระบบที่นิยมใช้กันทั่วโลกคือตัวเลข โดยมาตรฐานหลักๆ จะมีดังนี้ครับ:

* **Speed 75 (ช้า):** เหมาะสำหรับสภาพอากาศที่ร้อนมาก (ประมาณ 30°C ขึ้นไป) หรือพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ
* **Speed 76 (ค่อนข้างช้า):** เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อน (ประมาณ 25°C - 30°C)
* **Speed 77 (ปานกลาง):** เป็น Speed มาตรฐานสากล เหมาะสำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ระดับน้ำทะเล และอุณหภูมิปานกลาง (ประมาณ 15°C - 25°C)
* **Speed 78 (ค่อนข้างเร็ว):** เหมาะสำหรับสภาพอากาศเย็น (ประมาณ 0°C - 15°C)
* **Speed 79 (เร็ว):** เหมาะสำหรับสภาพอากาศที่หนาวจัด (ต่ำกว่า 0°C)

> **สำหรับประเทศไทย** ซึ่งเป็นเมืองร้อน Speed ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ **Speed 75** และ **Speed 76** ครับ โดย Speed 75 มักใช้ในวันที่อากาศร้อนจัด หรือในสนามที่ค่อนข้างอับ ในขณะที่ Speed 76 จะใช้ในสนามทั่วไปครับ

---

###  प्लास्टिक (Plastic) Speed ของลูกพลาสติก (Nylon)

สำหรับลูกแบดมินตันพลาสติก (ไนลอน) จะไม่ใช้ระบบตัวเลข 75-79 แต่จะใช้ **แถบสี** ที่หัวลูกเพื่อบอกความเร็วแทนครับ:

* **แถบสีเขียว (Green Cap):** ช้าที่สุด (Slow)
* **แถบสีน้ำเงิน (Blue Cap):** ปานกลาง (Medium)
* **แถบสีแดง (Red Cap):** เร็วที่สุด (Fast)

---

### 📋 สรุปตารางเทียบ Speed กับอุณหภูมิ (โดยประมาณ)

| Speed (ลูกขนไก่) | แถบสี (ลูกพลาสติก) | อุณหภูมิ (เซลเซียส) | ลักษณะอากาศ |
| :--- | :--- | :--- | :--- |
| **75** | - | 30°C ขึ้นไป | ร้อนจัด |
| **76** | สีเขียว (Slow) | 25°C - 30°C | ร้อน |
| **77** | สีน้ำเงิน (Medium) | 15°C - 25°C | ปานกลาง / เย็นสบาย |
| **78** | สีแดง (Fast) | 0°C - 15°C | เย็น |
| **79** | - | ต่ำกว่า 0°C | หนาวจัด |

*หมายเหตุ: บางยี่ห้อ เช่น Yonex อาจมีการใช้รหัสตัวเลข 1-5 ซึ่งเทียบเท่ากับ 75-79 (เช่น 76 = 2, 77 = 3) แต่ในตลาดสากลและในไทย ตัวเลข 75, 76, 77 เป็นที่เข้าใจกันมากที่สุดครับ*

------------------------------------------------
#23
ข้อผิดพลาด

```
Call to undefined function idna_maps_not_std3()
```

ใน **SMF (Simple Machines Forum)** มักเกิดจากปัญหา **เวอร์ชันของ PHP ที่ไม่รองรับฟังก์ชัน IDN ที่ SMF ใช้** หรือจาก **ไฟล์ IDNA / Subs-Charset.php / Subs.php** ที่เสียหายหรือไม่สมบูรณ์

---

## 🔍 สาเหตุที่พบบ่อย

1. **SMF รุ่นเก่า (เช่น 2.0.x)** ไม่เข้ากับ PHP 8.x
   → ฟังก์ชัน `idna_maps_not_std3()` อยู่ในไฟล์ `Subs-Charset.php` ซึ่ง SMF รุ่นเก่าบางตัวไม่มีหรือถูกเปลี่ยนชื่อ

2. **ไฟล์ของระบบ SMF หาย / ไม่ครบ**
   → โดยเฉพาะไฟล์ในโฟลเดอร์ `/Sources/` ที่มีฟังก์ชันเกี่ยวกับ IDNA

3. **อัปเกรด PHP แล้วไม่ได้อัปเดต SMF**
   → เช่น จาก PHP 7.4 → PHP 8.2 จะทำให้บางฟังก์ชันเก่าหายไป

---

## 🧩 วิธีตรวจสอบเบื้องต้น

1. เปิดไฟล์

   ```
   Sources/Subs-Charset.php
   ```

   แล้วค้นหาคำว่า

   ```
   function idna_maps_not_std3(
   ```

   ถ้าไม่มี แปลว่า SMF รุ่นนี้ไม่รองรับฟังก์ชันนี้

2. ตรวจสอบเวอร์ชัน PHP

   ```bash
   php -v
   ```

   ถ้าเป็น PHP 8.1+ และ SMF เป็นรุ่น 2.0.x → ต้องอัปเดต

---

## ✅ วิธีแก้ไข

### วิธีที่ 1: อัปเกรด SMF

อัปเกรดเป็น **SMF 2.1.x** (เช่น 2.1.4 หรือใหม่กว่า)
เพราะรุ่นนี้รองรับ PHP 8.x และแก้ปัญหานี้แล้ว

ลิงก์ดาวน์โหลดจากเว็บทางการ:
👉 [https://www.simplemachines.org/download/](https://www.simplemachines.org/download/)

> ก่อนอัปเกรด ให้สำรองไฟล์และฐานข้อมูลทั้งหมดก่อนทุกครั้ง

---

### วิธีที่ 2: แก้ไฟล์ชั่วคราว (ถ้ายังไม่อัปเกรดได้)

> ⚠️ วิธีนี้เป็น "วิธีแก้ชั่วคราว" สำหรับผู้ที่ต้องการให้เว็บกลับมาใช้งานได้ก่อน

เปิดไฟล์ `Sources/Idna.php` หรือ `Subs-Charset.php` แล้วเพิ่มฟังก์ชันเปล่าไว้ก่อน

```php
if (!function_exists('idna_maps_not_std3')) {
    function idna_maps_not_std3($codepoint) {
        // ฟังก์ชันนี้ใช้ในกระบวนการแปลงโดเมน IDN
        // หากไม่ใช้โดเมนต่างประเทศ ปล่อยว่างไว้ได้
        return false;
    }
}
```

บันทึกแล้วรีเฟรชหน้าเว็บใหม่

---

### วิธีที่ 3: กลับไปใช้ PHP รุ่นเก่าชั่วคราว

หากเว็บโฮสต์อนุญาต ให้ตั้ง PHP เป็น **7.4** หรือ **7.3**
(ใช้ได้ดีกับ SMF 2.0.x เดิม)

ตัวอย่างบน Plesk:

* ไปที่ **Websites & Domains → PHP Settings**
* เปลี่ยน **PHP version** → 7.4
* บันทึกและรีโหลดหน้าเว็บ

---

## 🧠 สรุป

| ปัญหา                                             | สาเหตุ                  | วิธีแก้แนะนำ                          |
| ------------------------------------------------- | ----------------------- | ------------------------------------- |
| `Call to undefined function idna_maps_not_std3()` | SMF รุ่นเก่า + PHP ใหม่ | ✅ อัปเกรด SMF เป็น 2.1.x              |
|                                                   | ไฟล์ระบบหาย             | ✅ อัปโหลดไฟล์ `Subs-Charset.php` ใหม่ |
|                                                   | ต้องการแก้เฉพาะหน้า     | ⚙️ เพิ่มฟังก์ชันเปล่าชั่วคราวในไฟล์   |

----------------------------
#24
exness มีจุดแข็งอะไรบ้าง ที่ลูกค้าต้องการ

เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

ดีเลย — สรุป **จุดแข็งของ Exness ที่ลูกค้ามักต้องการ** แบบกระชับ พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงสำคัญ (อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลล่าสุด):

1. **ถอนฝากเงินเร็ว — ระบบประมวลผลอัตโนมัติ (instant withdrawals)**
   ลูกค้าชอบเพราะเอาเงินเข้า-ออกได้ทันที ลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและเพิ่มความเชื่อมั่นต่อโบรคเกอร์. ([Exness][1])

2. **ค่าคอม/สเปรดต่ำและสภาพคล่องดี (tight spreads, fast execution)**
   ลดต้นทุนการเทรดและลด slippage — สำคัญทั้งเทรดเดอร์รายย่อยและมืออาชีพ. รีวิวอิสระและหน้าเว็บของ Exness ยืนยันจุดนี้. ([Myfxbook.com][2])

3. **ความยืดหยุ่นด้านเลเวอเรจและหลายประเภทบัญชี (high/flexible leverage, multiple account types)**
   ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบบัญชี/เลเวอเรจตามสไตล์การเทรด (scalping, EA, swing ฯลฯ) — เพิ่มความเข้าถึงผู้ใช้หลากระดับ. ([Exness][3])

4. **ระบบคุ้มครองลูกค้า — Negative Balance Protection (ไม่ติดลบเกินเงินลงทุน)**
   ลดความเสี่ยงเชิงระบบเมื่อตลาดผันผวน ทำให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น. ([Exness][4])

5. **การกำกับดูแลหลายภูมิภาคและความโปร่งใส (regulated in multiple jurisdictions)**
   มีใบอนุญาตหลายแห่ง (เช่น CySEC / FSCA / CBCS – ขึ้นกับนิติบุคคล) ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าในหลายประเทศ. ([Exness][5])

6. **ช่องทางฝาก-ถอนหลากหลาย (รวมวิธีท้องถิ่น/คริปโต) และไม่มีค่าธรรมเนียมถอนบางแบบ**
   สะดวกสำหรับผู้ใช้ในประเทศต่าง ๆ (เช่น ไทย) ที่ต้องการช่องทางท้องถิ่นหรือ e-wallets. ([Scribe][6])

7. **แพลตฟอร์มที่รองรับ MetaTrader (MT4/MT5) + web/mobile และบริการ social/copy trading**
   ตอบโจทย์ทั้งเทรดเดอร์ที่ใช้ EA และผู้ที่อยากคัดลอกกลยุทธ์สำเร็จรูป. ([social-trading.exness.com][7])

8. **บริการลูกค้าและรีวิวเชิงบวก (user experience, 24/7 support บางภูมิภาค)**
   รีวิวจากผู้ใช้ชี้ว่าการสนับสนุนและแอปใช้งานได้ดี ซึ่งสำคัญต่อการรักษาลูกค้า. ([Exness][8])

---------------------------------------------------------
#25
ผมไม่พบข้อมูล **จำนวนที่เฉพาะเจาะจง** ของประชากรโลกแยกตามอายุ **1 – 120 ปี** แบบ "อายุ = แต่ละปี" (single‐year ages) ได้ในแหล่งข้อมูลสาธารณะทั่วไป

ตัวอย่างข้อมูลที่มีใกล้เคียง:

* ในปี 2020 ประชากรโลกแบ่งตามกลุ่มอายุเช่น < 20 ปี = ~2.6 พันล้าน, 20-39 ปี = ~2.3 พันล้าน, 40-59 ปี = ~1.8 พันล้าน, 60-79 ปี = ~918 ล้าน, 80-99 ปี = ~147 ล้าน, 100+ ปี = ~0.6 ล้าน คน ([Visual Capitalist][1])
* ข้อมูลอายุโครงสร้างประชากรโลกแยกเป็นช่วงอายุ 0-14, 15-64, 65+ ก็มีเผยแพร่ ([Wikipedia][2])
------------------------------------------------------------

สวัสดีครับ สำหรับคำถามเรื่องตารางประชากรโลกที่จำแนกตามอายุ 1 - 120 ปี ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ละเอียดมาก และ **ไม่มีการเผยแพร่ตารางข้อมูลสำเร็จรูปที่แสดงประชากรทุกช่วงอายุ (1 ปี, 2 ปี, 3 ปี... ไปจนถึง 120 ปี) ในหน้าเว็บเดียว** ครับ

โดยทั่วไป นักประชากรศาสตร์และองค์กรระดับโลก เช่น สหประชาชาติ (UN) มักจะนำเสนอข้อมูลในรูปแบบกลุ่มอายุ (เช่น 0-4 ปี, 5-9 ปี, 15-64 ปี, 65 ปีขึ้นไป) เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์

อย่างไรก็ตาม ผมมีข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ดังนี้ครับ

### 💡 ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประชากรโลก (ข้อมูลปี 2024)

แม้จะไม่มีตารางแบบละเอียด แต่ผมมีข้อมูลบางส่วนที่น่าสนใจจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (เช่น UN World Population Prospects 2024) มาให้ครับ:

* **ประชากรโลกทั้งหมด:** ประมาณ **8.2 พันล้านคน**
* **ประชากรผู้สูงอายุ (Centenarians):** ข้อมูลในปี 2024 ประมาณการว่าทั่วโลกมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป (ซึ่งรวมถึง 120 ปีด้วย) อยู่ที่ประมาณ **722,075 คน** ครับ

---

### 🏛� แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด (หากคุณต้องการข้อมูลดิบ)

ข้อมูลที่คุณต้องการมีอยู่จริง แต่จะอยู่ในชุดข้อมูลดิบขนาดใหญ่สำหรับนักวิจัย ซึ่งต้องดาวน์โหลดมาประมวลผลเองครับ

1.  **แหล่งข้อมูลหลัก:** **United Nations World Population Prospects (WPP) 2024 Revision**
    * นี่คือแหล่งข้อมูลประชากรที่ละเอียดและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก
    * ในชุดข้อมูลนี้ **มีการเก็บข้อมูลแบบ "รายปี" (Single-year increments of age)** ตามที่คุณต้องการ
    * ข้อมูลนี้ไม่ได้ทำเป็นตารางให้ดูง่ายๆ แต่เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ (เช่น ไฟล์ Excel หรือ CSV)

2.  **คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ที่ไหน:**
    * **สำหรับนักวิจัย (ไฟล์ข้อมูลดิบ):** [UN WPP 2024 Downloads](https://population.un.org/wpp/downloads/)
    * **สำหรับบุคคลทั่วไป (เครื่องมือค้นหาข้อมูล):** [UN Population Data Portal](https://population.un.org/dataportal/home) (คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อลองค้นหาและสร้างแผนภูมิตามกลุ่มอายุที่สนใจได้)

### สรุป

* **ไม่มีตารางสำเร็จรูป** ที่แสดงประชากรโลกแยกรายอายุ 1 - 120 ปี ให้ดูได้ทั่วไป
* ข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุดคือ **จำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป** ซึ่งมีประมาณ **722,075 คน**
* หากต้องการข้อมูลดิบแบบละเอียดรายปีจริงๆ ต้องไปดาวน์โหลดจากฐานข้อมูล **UN World Population Prospects 2024** ครับ
--------------------------------------------------
#26
junjao.com จดโดเมนเนมใหม่ โฮสติ้ง 1 GB

ลง Wordpress  6.8.3 เว็บสำเร็จรูปให้ , PHP 8.4.14 ราคา 3,000 บาทต่อปี

พร้อม let's encrypt SSL certificate , Plesk 18 หน้าจัดการเว็บ

รับ 10 โดเมนเนม ถึงสิ้นปี 2568 สนใจ Index มาครับ

สนใจติดต่อ
สรพล 081-446-5311
line : junjaocom
#27
คำถามดีมากครับ 👍
ถ้าพูดสั้น ๆ — **MariaDB 10.11 ดีกว่า MariaDB 10.6** ในแทบทุกด้าน
เพราะเป็น **LTS (Long Term Support)** รุ่นใหม่กว่า ที่มี **ประสิทธิภาพดีขึ้น ความปลอดภัยสูงขึ้น และฟีเจอร์มากกว่า**
แต่มีรายละเอียดที่ควรรู้ก่อนเลือก ดังนี้ 👇

---

## ⚙️ เปรียบเทียบ MariaDB 10.6 vs 10.11

| รายการเปรียบเทียบ     | **MariaDB 10.6 (LTS)**     | **MariaDB 10.11 (LTS)**                                                     |
| --------------------- | -------------------------- | --------------------------------------------------------------------------- |
| 🗓� วันที่ออก         | มิถุนายน 2021              | กุมภาพันธ์ 2023                                                             |
| 🔒 การซัพพอร์ต (LTS)  | ถึง ก.ค. 2026              | ถึง ก.พ. 2028                                                               |
| ⚡ ความเร็ว            | ดี                         | ดีกว่า (ปรับปรุง query optimizer และ cache)                                 |
| 🧩 ฟีเจอร์ใหม่        | เสถียร, เน้นความเข้ากันได้ | มีฟีเจอร์ใหม่ เช่น dynamic privileges, improved JSON, storage engine update |
| 💾 Storage Engine     | InnoDB, MyRocks, Aria      | InnoDB ปรับปรุง I/O, MyRocks เสถียรขึ้น                                     |
| 🔍 Query Optimizer    | ปกติ                       | เร็วกว่ามาก โดยเฉพาะ query ซับซ้อน                                          |
| 🔁 Compatibility      | เข้ากันได้สูง              | เข้ากันได้กับ 10.6 แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่บางอย่าง                              |
| 🛡� Security          | มาตรฐาน                    | เพิ่มการเข้ารหัสและระบบสิทธิ์ (Privilege System) ที่ละเอียดขึ้น             |
| 💬 JSON / GIS         | รองรับพื้นฐาน              | รองรับ JSON path และ Spatial functions มากขึ้น                              |
| 🧰 การทำงานร่วมกับแอป | เสถียร                     | เสถียร + ฟีเจอร์ใหม่ (เหมาะกับเว็บ/ระบบใหญ่)                                |

---

## ✅ สรุปการเลือกใช้งาน

| สถานการณ์                                                  | แนะนำ                                                        |
| ---------------------------------------------------------- | ------------------------------------------------------------ |
| 👨�💻 ระบบเก่าที่ต้องการเสถียรและเข้ากันได้ 100%           | ใช้ **MariaDB 10.6 LTS**                                     |
| 🚀 ระบบใหม่ / ต้องการความเร็ว / รองรับฟีเจอร์ล่าสุด        | ใช้ **MariaDB 10.11 LTS**                                    |
| 🧱 ต้องการระยะซัพพอร์ตยาว (มากกว่า 3 ปี)                   | **10.11 LTS** ดีกว่า                                         |
| ⚠️ ระบบที่ใช้กับ PHP รุ่นใหม่ / Laravel / WordPress ล่าสุด | แนะนำ **10.11** เพราะรองรับการเชื่อมต่อและฟีเจอร์ใหม่ครบกว่า |

---

## 💡 ข้อแนะนำเพิ่มเติม

* ถ้าคุณกำลัง **ติดตั้งใหม่** → ใช้ **MariaDB 10.11** ไปเลยครับ
* ถ้าคุณมีระบบ **เก่า (เช่น 10.3–10.5)** และจะอัปเกรด → อัปเป็น **10.11 โดยตรง** ได้ (มี Migration Guide)
* ถ้าคุณใช้ **Ubuntu 22.04 / Debian 12 / Rocky 9 / Alma 9** → MariaDB 10.11 เป็นค่าเริ่มต้นของ repo อยู่แล้ว

--------------------------------------
#28
การมี **เว็บไซต์ (Website)** สำหรับธุรกิจหรือบุคคลทั่วไป มีทั้ง **ข้อดี** และ **ข้อเสีย** ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ การออกแบบ และการบริหารจัดการเว็บนั้น ๆ
ต่อไปนี้คือสรุปที่เข้าใจง่าย 👇

---

## 🌟 **ข้อดีของการมีเว็บไซต์**

### 1. **เพิ่มความน่าเชื่อถือ**

* เว็บไซต์เปรียบเหมือน "หน้าร้านออนไลน์" ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาดูข้อมูลได้ตลอดเวลา
* ทำให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้มากกว่ามีแค่เพจ Facebook หรือ Line OA

### 2. **เข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก**

* อินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่
* ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้า/บริการของคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง

### 3. **ประชาสัมพันธ์ได้ตลอดเวลา**

* เว็บไซต์ทำงานแทนคุณได้อัตโนมัติ
* ลูกค้าสามารถดูข้อมูล ราคา รีวิว หรือสั่งซื้อได้แม้ในเวลาที่คุณไม่ออนไลน์

### 4. **วัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้**

* สามารถใช้เครื่องมืออย่าง **Google Analytics** เพื่อดูจำนวนผู้เข้าชม, แหล่งที่มาของทราฟฟิก, พฤติกรรมของผู้ใช้ ฯลฯ

### 5. **ปรับแต่งแบรนด์ได้อิสระ**

* เว็บไซต์สามารถออกแบบให้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ (สี โลโก้ โทน ภาษา)

### 6. **เป็นฐานข้อมูลถาวร**

* ข้อมูล ข่าวสาร บทความ หรือผลงานต่าง ๆ สามารถเก็บไว้และค้นหาได้ง่ายในระยะยาว

### 7. **รองรับการทำ SEO**

* หากทำ SEO (Search Engine Optimization) ดี ๆ เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับ Google ทำให้ลูกค้าเจอง่ายโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

---

## ⚠️ **ข้อเสียของการมีเว็บไซต์**

### 1. **มีค่าใช้จ่าย**

* ต้องมีค่า **โดเมน (Domain)**, **โฮสติ้ง (Hosting)** และอาจมีค่าออกแบบ/พัฒนาเว็บไซต์
* หากจ้างบริษัททำ ราคาจะตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท

### 2. **ต้องดูแลและอัปเดต**

* เว็บไซต์ต้องมีการอัปเดตข้อมูล ข่าวสาร หรือระบบอย่างสม่ำเสมอ
* หากละเลย อาจทำให้ข้อมูลล้าสมัยหรือระบบมีปัญหา

### 3. **มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย**

* ถ้าไม่ดูแลหรืออัปเดตระบบ WordPress/ปลั๊กอิน/ฐานข้อมูล อาจโดนแฮ็กได้

### 4. **ต้องใช้เวลาในการสร้างฐานผู้ชม**

* แม้มีเว็บไซต์ แต่ถ้าไม่มีการโปรโมต เช่น ผ่านโซเชียลหรือโฆษณา Google Ads ก็อาจไม่มีคนเข้า

### 5. **ต้องมีความรู้หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญ**

* หากทำเองต้องเรียนรู้เรื่องการออกแบบ เว็บเซิร์ฟเวอร์ และ SEO
* หากจ้างก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

---

## ✅ **สรุป**

| ด้าน                 | ข้อดี                      | ข้อเสีย                              |
| -------------------- | -------------------------- | ------------------------------------ |
| **ต้นทุน**           | ลงทุนครั้งเดียวใช้ได้นาน   | ต้องมีค่าโดเมน โฮสติ้ง และบำรุงรักษา |
| **ภาพลักษณ์**        | ดูเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ | ถ้าออกแบบไม่ดี อาจทำให้ภาพลักษณ์เสีย |
| **การเข้าถึงลูกค้า** | เข้าถึงได้ทั่วโลก 24 ชม.   | ต้องโปรโมตให้มีคนเข้าชม              |
| **การจัดการข้อมูล**  | เก็บและนำเสนอข้อมูลได้ดี   | ต้องอัปเดตและดูแลต่อเนื่อง           |

-------------------------------------------------
#29
การ **อัปเดต WordPress เป็นเวอร์ชันใหม่** สามารถทำได้หลายวิธีครับ — ทั้งแบบ "คลิกอัปเดตอัตโนมัติ" และ "อัปเดตแบบแมนนวล" (manual update) ขึ้นอยู่กับสิทธิ์การเข้าถึงและวิธีที่เว็บไซต์คุณติดตั้งไว้ (เช่น ติดตั้งเอง หรือผ่านโฮสติ้งอย่าง DirectAdmin / cPanel / Plesk / WordPress Manager)

---

## 🧭 วิธีที่ 1: อัปเดตผ่านหน้า Dashboard (ง่ายที่สุด)

> ✅ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทั่วไป / ไม่มีการแก้ไขโค้ดระบบ

1. **ล็อกอินเข้าสู่ระบบ WordPress Admin**

   ```
   yourdomain.com/wp-admin
   ```
2. ไปที่เมนู **แดชบอร์ด (Dashboard) → การอัปเดต (Updates)**
3. หากมีเวอร์ชันใหม่ จะเห็นข้อความเช่น
   *"มี WordPress เวอร์ชันใหม่พร้อมให้อัปเดต"*
4. คลิกปุ่ม **"อัปเดตตอนนี้ (Update Now)"**
5. ระบบจะเริ่มดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ให้อัตโนมัติ
   ✅ เมื่อเสร็จสิ้น จะเห็นข้อความ "WordPress อัปเดตเรียบร้อยแล้ว"

> 🔹 **หมายเหตุ:** ก่อนอัปเดต ควร "สำรองข้อมูลเว็บไซต์" (Backup Files + Database) ไว้ก่อนเสมอ

---

## 🧭 วิธีที่ 2: อัปเดตผ่าน Hosting Control Panel (เช่น cPanel / DirectAdmin)

> ✅ เหมาะสำหรับคนที่ติดตั้ง WordPress ผ่าน Softaculous หรือ Installatron

1. เข้าสู่ **cPanel หรือ DirectAdmin**
2. ไปที่ **Softaculous Apps Installer** → คลิก "WordPress"
3. เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการอัปเดต
4. คลิกปุ่ม **"Update"**
5. เลือกเวอร์ชันล่าสุด แล้วกดยืนยัน

---

## 🧭 วิธีที่ 3: อัปเดตแบบ Manual (มืออาชีพ)

> ✅ เหมาะสำหรับนักพัฒนา หรือกรณีอัปเดตอัตโนมัติล้มเหลว

1. ดาวน์โหลด WordPress เวอร์ชันล่าสุดจาก
   🔗 [https://wordpress.org/download/](https://wordpress.org/download/)
2. แตกไฟล์ zip ออกมา
3. อัปโหลดไฟล์ทั้งหมดไปยังโฟลเดอร์เว็บของคุณ (เช่น `/public_html`)
   แต่ **อย่าทับโฟลเดอร์ `wp-content` และไฟล์ `wp-config.php`**
4. เข้าหน้าเว็บ `/wp-admin/upgrade.php` เพื่อรันการอัปเดตฐานข้อมูล

---

## ⚠️ สิ่งที่ควรทำ "ก่อน" และ "หลัง" อัปเดต

| ขั้นตอน                | รายละเอียด                                                     |
| ---------------------- | -------------------------------------------------------------- |
| 🔒 สำรองข้อมูล         | Backup ไฟล์ทั้งหมด + ฐานข้อมูล (ใช้ UpdraftPlus หรือใน cPanel) |
| 🔍 ปิดปลั๊กอินชั่วคราว | ปิดปลั๊กอินบางตัวก่อนอัปเดต หากกลัวเข้ากันไม่ได้               |
| ✅ อัปเดตธีมและปลั๊กอิน | หลังอัปเดต WordPress เสร็จ ให้กดอัปเดตธีม/ปลั๊กอินทั้งหมด      |
| 🔎 ตรวจสอบเว็บไซต์     | ทดสอบหน้าเว็บหลัก และระบบล็อกอินหลังบ้าน                       |

------------------------------------
#30
คำถามนี้ดีมากครับ 👍
การ **ดูว่าลูกค้ามาจากเว็บใด (หรือช่องทางไหน)** เรียกว่า **การดู "แหล่งที่มาของทราฟฟิก" (Traffic Source)** ซึ่งสามารถดูได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าคุณเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านช่องทางใด เช่น เว็บไซต์ของคุณ, โฆษณา, หรือฟอร์มสมัครสมาชิก ฯลฯ

---

### 🧭 1. **ถ้าคุณมีเว็บไซต์ของตัวเอง**

ใช้เครื่องมือหลักคือ **Google Analytics (GA4)**

> 🔗 [https://analytics.google.com](https://analytics.google.com)

#### วิธีดู:

1. เข้าระบบ **Google Analytics**
2. ไปที่เมนู
   **Reports → Acquisition → Traffic acquisition**
3. ที่นี่จะเห็นว่า ลูกค้ามาจากที่ใด เช่น

   * **Organic Search** → มาจาก Google ค้นหาเอง
   * **Direct** → พิมพ์ URL ตรง ๆ
   * **Referral** → มาจากลิงก์เว็บไซต์อื่น
   * **Social** → มาจาก Facebook / Instagram / TikTok
   * **Paid Search** → มาจากโฆษณา Google Ads

> 💡 ถ้าอยากรู้ชื่อเว็บที่อ้างอิงมา (Referrer) ให้ดูที่คอลัมน์ **Session source / medium**
> เช่น
> `facebook.com / referral`
> `google / organic`

---

### 📊 2. **ถ้าคุณขายของผ่าน Facebook / Instagram**

* เข้า **Meta Business Suite → การรายงาน (Insights / Analytics)**
  แล้วดูแหล่งที่มาของคลิกหรือการสั่งซื้อ
* หรือใช้ **Facebook Pixel** + **Google Analytics** เพื่อเชื่อมข้อมูล

---

### 💬 3. **ถ้าคุณใช้หน้า Landing Page หรือฟอร์มลงทะเบียน (เช่น Google Form, Typeform, หรือ PWA ของคุณเอง)**

คุณสามารถใช้:

* **UTM Tracking** → คือการใส่พารามิเตอร์ท้ายลิงก์ เช่น

  ```
  https://yourdomain.com/?utm_source=facebook&utm_medium=cpc&utm_campaign=promo
  ```

  จากนั้นไปดูใน Google Analytics ว่ามีลูกค้ามาจาก UTM ไหน

---

### 🧾 4. **ถ้าดูจากระบบหลังบ้านเว็บไซต์ (เช่น WordPress, Shopify, Wix)**

ในส่วน "Analytics" หรือ "Reports" ของแต่ละระบบจะมีข้อมูล "Referrer"
หรือ "Traffic Source" เช่นเดียวกับ GA4

---

### 🔍 5. **ถ้าดูจาก Log Server โดยตรง (สำหรับเว็บนักพัฒนา)**

ในไฟล์ **access log** ของเว็บเซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache หรือ Nginx
จะมีค่า `Referer:` ที่บอกว่า ผู้ใช้เข้ามาจาก URL ใด

----------------------------------------------