• Welcome to จั่นเจาดอทคอม ถามตอบ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต Forex MT4 MT5 เทรดทอง .
 

News:

IB Exness 16 สิงหาคม 2568 ประกาศจับสลากผลรางวัล
รางวัลที่ 1 มือถือ Oppo A3X 4GB/64GB เครื่อง 1 รางวัล หรือ 100 USD 1 รางวัล
รางวัลที่ 2 10 USD 10 รางวัล
รางวัลที่ 3 หมวก Exness 10 รางวัล
ลูกค้าใหม่ สมัครได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
ลูกค้าเก่าที่สมัครผ่านลิงค์ตัวแทนผม สมัครได้
เงื่อนไข เทรดครบ 1 Lot Standard เริ่มต้น 1-15 สิงหาคม 2568
ติดต่อสอบถามหรือ Indox มา
สรพล
Line : junjaocom
หน้าประกาศรางวัล https://junjao.com/exness16072568.html
สเปกเครื่อง https://www.siamphone.com/spec/oppo/a3x.htm

Main Menu

Recent posts

#61
**Podcasts** คือ รายการเสียงหรือวิดีโอที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต โดยผู้ฟังสามารถฟังเมื่อไหร่ก็ได้ (On-demand) คล้ายรายการวิทยุแต่เปิดฟังได้ตามสะดวก มักมีรูปแบบเป็นตอน ๆ (Episode) และจัดอยู่ในหมวดหมู่ เช่น ข่าว, สาระ, บันเทิง, สัมภาษณ์, ธุรกิจ ฯลฯ

---

### 🎧 Podcast คืออะไร แบบเข้าใจง่าย

* คล้ายรายการวิทยุ แต่เผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต
* มีผู้จัด (Host) ที่พูดคุยในหัวข้อต่าง ๆ
* ผู้ฟังสามารถกดติดตาม (Subscribe) ได้ เพื่อไม่พลาดตอนใหม่
* ฟังผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Spotify, Apple Podcasts, YouTube, Google Podcasts ฯลฯ

---

### ✅ อยากเริ่มทำ Podcast ต้องทำอย่างไร?

#### 1. **กำหนดหัวข้อรายการ**

* หาคอนเซปต์ที่คุณสนใจ เช่น "เล่าเรื่องธุรกิจ", "หนังที่เพิ่งดู", "ชีวิตในต่างแดน", "พัฒนาตัวเอง"
* ตั้งชื่อรายการให้จำง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมาย

#### 2. **เตรียมอุปกรณ์**

* เริ่มง่าย ๆ ได้แค่มี:

  * ไมโครโฟนคุณภาพดี (เช่น USB Mic: Samson Q2U, Blue Yeti)
  * คอมพิวเตอร์หรือมือถือ
  * ซอฟต์แวร์อัดเสียง (เช่น Audacity, GarageBand, หรือ Anchor)

#### 3. **วางโครงสร้างเนื้อหาแต่ละตอน**

* เปิดรายการ (Intro)
* เนื้อหาหลัก (Main Content)
* ปิดรายการ (Outro) พร้อมชวนติดตามตอนต่อไป

#### 4. **อัดเสียงและตัดต่อ**

* ใช้โปรแกรมเช่น:

  * **Audacity** (ฟรี)
  * **GarageBand** (ฟรีบน Mac)
  * **Adobe Audition** (สำหรับมืออาชีพ)
  * หรือแอปมือถือเช่น **Anchor** (ง่ายและครบวงจร)

#### 5. **เผยแพร่รายการ**

* สมัครบัญชีบนแพลตฟอร์มเช่น:

  * **Spotify for Podcasters**
  * **Anchor.fm** (แนะนำสำหรับมือใหม่)
  * **Podbean**
* แพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยกระจายรายการไปยัง Spotify, Apple Podcasts ฯลฯ

#### 6. **โปรโมตรายการ**

* แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย (Facebook, IG, TikTok)
* ทำภาพปกสวย ๆ และชื่อ EP ให้น่าสนใจ
* สร้างเพจ/เพื่อนำเสนอเนื้อหาเบื้องหลังหรือพูดคุยกับผู้ฟัง

---

### 🎙� เคล็ดลับสำหรับมือใหม่

* เริ่มจากสิ่งที่คุณ "อยากพูด" และ "พูดได้เรื่อย ๆ"
* ซ้อมพูดหน้ากระจก / อัดเสียงแล้วฟังตัวเอง
* รักษาคุณภาพเสียงให้ชัดเจน
* ความสม่ำเสมอสำคัญ เช่น อัปโหลดทุกสัปดาห์

----------------------------------------------
#62
ข้อผิดพลาด **"Too Many Requests"** ที่เกิดขึ้นกับ **Hotmail.com** (หรือ Outlook.com ซึ่งเป็นบริการเดียวกันของ Microsoft) หมายความว่าคุณได้ทำการร้องขอ (request) ไปยังเซิร์ฟเวอร์มากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งระบบมองว่าเป็นพฤติกรรมผิดปกติ อาจคล้ายกับการโจมตีแบบ spam หรือ bot ทำให้ระบบบล็อกชั่วคราว

## วิธีแก้ไขเบื้องต้น:

### ✅ 1. **รอสักพัก**

* บ่อยครั้ง Microsoft จะปลดบล็อกอัตโนมัติหลังผ่านไป 15 นาที – 1 ชั่วโมง
* หลีกเลี่ยงการรีเฟรชหรือพยายามล็อกอินซ้ำ ๆ ระหว่างรอ เพราะจะยิ่งต่อเวลาบล็อก

---

### ✅ 2. **เปลี่ยนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต / IP Address**

* ถ้าใช้ Wi-Fi หรือเน็ตบ้าน ลองสลับไปใช้ 4G/5G บนมือถือ หรือ hotspot จากเครื่องอื่น
* IP Address ใหม่จะช่วยเลี่ยงการบล็อกจาก IP เดิม

---

### ✅ 3. **เคลียร์ Cookies & Cache ในเบราว์เซอร์**

* บางครั้ง session ที่ค้างในเบราว์เซอร์อาจทำให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำ
* ลองล้าง cookies + cache แล้วเปิดหน้าเว็บใหม่

---

### ✅ 4. **ใช้เบราว์เซอร์อื่น หรือโหมดไม่ระบุตัวตน (Incognito/Private mode)**

* เปิดเว็บ Hotmail.com ผ่าน Chrome, Firefox, Safari หรือเบราว์เซอร์อื่น
* หรือกด Ctrl+Shift+N (Windows) / ⌘+Shift+N (Mac) เพื่อเปิดโหมดไม่ระบุตัวตน

---

### ✅ 5. **ตรวจสอบว่าไม่ได้ใช้โปรแกรมอีเมลหรืออุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน**

* เช่น Outlook บนมือถือ + แอปในคอม + Web browser หากเชื่อมพร้อมกันอาจส่ง request จำนวนมากโดยไม่รู้ตัว

---

### ✅ 6. **ตรวจสอบว่าไม่มี VPN/Proxy ที่อาจใช้ IP ร่วมกับผู้ใช้อื่น**

* บางครั้ง VPN ทำให้คุณแชร์ IP กับคนอื่นที่อาจเคยถูกบล็อก

---

### ✅ 7. **ถ้ายังใช้งานไม่ได้แม้รอหลายชั่วโมง: ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft**

* ไปที่: [https://support.microsoft.com/contactus](https://support.microsoft.com/contactus)
* หรือเข้าสู่ระบบ Microsoft ที่นี่: [https://account.microsoft.com/](https://account.microsoft.com/)
* แล้วดูเมนู **ความปลอดภัย** เพื่อดูว่าบัญชีมีปัญหาหรือถูกจำกัดหรือไม่

--------------------------------------------
#63
การพัฒนากลยุทธ์การเทรด (Trading Strategy Development) เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ความเข้าใจ และการทดสอบอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอารมณ์ และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว โดยสามารถสรุปเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้:

เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://exness.com/intl/th/a/73208

---

## ✅ 1. **กำหนดเป้าหมายและข้อจำกัดส่วนตัว**

* เป้าหมาย: ต้องการกำไรเท่าไรต่อเดือน/ปี? รับความเสี่ยงได้แค่ไหน?
* ทุนเริ่มต้น: มีทุนเท่าไหร่? ควรใช้ leverage หรือไม่?
* เวลา: เทรดเต็มเวลา หรือพาร์ทไทม์?
* สไตล์การเทรด: Day trading, Swing, Scalping, Position, Algorithmic?

---

## ✅ 2. **เลือกตลาดและสินทรัพย์ที่จะเทรด**

* ตลาด: หุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโต, ฟิวเจอร์ส ฯลฯ
* สินทรัพย์: คู่สกุลเงินหลัก, หุ้น blue-chip, เหรียญใหญ่ในคริปโต ฯลฯ

---

## ✅ 3. **วิเคราะห์และเลือกแนวทางวิเคราะห์**

### 🔹 การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

* ใช้กราฟ, แนวรับ-แนวต้าน, trend line, รูปแบบแท่งเทียน
* ตัวชี้วัด: RSI, MACD, Moving Averages, Bollinger Bands ฯลฯ

### 🔹 การวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis)

* รายงานการเงิน, ข่าวเศรษฐกิจ, ตัวเลข GDP, อัตราดอกเบี้ย

### 🔹 การวิเคราะห์เชิงสถิติหรือเชิงปริมาณ (Quantitative/Statistical)

* สร้างโมเดลจากข้อมูลย้อนหลัง เช่น backtesting, mean reversion

---

## ✅ 4. **กำหนดกฎของกลยุทธ์**

ต้องกำหนดให้ชัดเจน เช่น:

* จุดเข้า (Entry): ตัวชี้วัดใดให้สัญญาณซื้อ?
* จุดออก (Exit): จะขายเมื่อกำไรถึงกี่ % หรือเมื่อสัญญาณกลับทิศ?
* การจัดการความเสี่ยง (Risk Management): จะตั้ง stop loss เท่าไหร่? ต่อครั้งเสี่ยงไม่เกินกี่ % ของพอร์ต?

---

## ✅ 5. **Backtesting (ทดสอบกับข้อมูลย้อนหลัง)**

* ใช้โปรแกรม เช่น TradingView, MetaTrader, Python/Pandas เพื่อทดสอบว่า ถ้าใช้กลยุทธ์นี้กับข้อมูลในอดีต ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
* พิจารณา:

  * Win rate
  * Risk-Reward Ratio
  * Maximum drawdown
  * Expectancy (ค่าคาดหวังต่อการเทรด)

---

## ✅ 6. **ปรับปรุงและ Optimize**

* แก้ไขจุดอ่อนจากการ backtest
* อย่าปรับมากเกินไปจนเกิด "overfitting" (ปรับจนใช้ได้เฉพาะข้อมูลในอดีต)

---

## ✅ 7. **ทดลองใช้งานจริงแบบจำลอง (Paper Trading / Demo)**

* ใช้กลยุทธ์กับบัญชีทดลอง
* ดูว่าการตัดสินใจในสภาพตลาดจริงยังได้ผลหรือไม่

---

## ✅ 8. **นำไปใช้จริงด้วยขนาดเล็ก (Live Trading)**

* เริ่มจาก position size เล็ก ๆ
* บันทึกการเทรดทุกครั้ง วิเคราะห์ว่าอะไรได้ผล อะไรไม่

---

## ✅ 9. **วิเคราะห์ผลลัพธ์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง**

* บันทึกผลลัพธ์
* ประเมินกลยุทธ์ทุกเดือน/ไตรมาส
* ปรับปรุงกลยุทธ์ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด

---

## 🛠 ตัวอย่างเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนากลยุทธ์:

* **TradingView** – วิเคราะห์กราฟและเขียน Pine Script
* **MetaTrader 4/5** – เทรดอัตโนมัติผ่าน Expert Advisor (EA)
* **Excel/Google Sheets** – สำหรับคำนวณทางสถิติ
* **Python (Pandas, Backtrader, Zipline)** – สำหรับกลยุทธ์อัตโนมัติ

------------------------------------------------------
#64
เงินเดือนเริ่มต้นในไทยจะแตกต่างกันตามวุฒิการศึกษาและสายอาชีพ ดังนี้ครับ:

---

### 🎓 วุฒิขั้นพื้นฐาน

* **จบ ป.6 – ม.3 – ม.6**
  โดยทั่วไป กลุ่มนี้ถือเป็นแรงงานทั่วไป (first jobber) เช่น พนักงานขาย พนักงานโรงงาน หรือช่างเทคนิคเบื้องต้น เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ **10,000 – 15,000 บาท** ต่อเดือน ([www.thairath.co.th][1])

---

### 🛠 ปวช. – ปวส. (สายอาชีวศึกษา)

* เด็กจบอาชีวะเริ่มต้นที่ประมาณ **11,000 – 15,000 บาท** ([www.thairath.co.th][1])
* หากเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ เช่น ช่าง หรือ IT Support อาจเริ่มที่ **15,000 – 22,000 บาท** ([kapook.com][2])

---

### 🎓 ป.ตรี (Bachelor's Degree)

* วุฒิปริญญาตรีทั่วๆ ไป (บริหาร, สังคมศาสตร์): **15,000 – 25,000 บาท** ([Jobcadu][3])
* อาชีพเฉพาะทาง (วิศวกรรม, IT, วิทยาศาสตร์สุขภาพ):

  * วิศวกรเริ่มที่ **20,000 – 30,000 บาท** ([Jobcadu][3])
  * สาย IT เช่น Software Engineer หรือพัฒนาเว็บไซต์ **25,000 – 30,000 บาท** ([thansettakij][4])
  * สาธารณสุข พยาบาล เทคนิครังสี: **16,000 – 20,000 บาท** 

สายพิเศษเช่น วิศวกรรมการบิน ค่าเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ **20,000 บาท** ([trueplookpanya.com][5])

---

### 🎓 ป.โท – ป.เอก (Master's / PhD Degree)

* ปริญญาโทมักจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก ป.ตรี ประมาณ **3,000 บาท** และ ป.เอกอาจได้เพิ่มอีก **2,000–5,000 บาท** จากฐานทั่วไปของป.ตรี ([th.jobsdb.com][6])

---

### 💡 ตัวอย่างภาพรวมปีล่าสุด

| วุฒิการศึกษา | เงินเดือนเริ่มต้นโดยทั่วไป                            |
| ------------ | ------------------------------------------------------ |
| ป.6 – ม.6    | 10,000 – 15,000 บาท                                    |
| ปวช. – ปวส.  | 11,000 – 15,000 บาท (ถึง \~22,000 บาทถ้าใช้ทักษะเฉพาะ) |
| ป.ตรี        | 15,000 – 25,000 บาท; สาขาที่เฉพาะทางถึง 30,000 บาท    |
| ป.โท – ป.เอก | เพิ่มจาก ป.ตรีประมาณ 3,000–5,000 บาท                  |

---

### 🏢 ปัจจัยที่มีผลกับเงินเดือน

1. **สายอาชีพ** – สาขาเทคโนโลยี วิศวกรรม สุขภาพ มักมีเงินเดือนสูงกว่า
2. **ขนาดและประเภทขององค์กร** – Multinational หรือบริษัทใหญ่จะจ่ายสูงกว่า SME หรือหน่วยงานรัฐบาล
3. **ทักษะและความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม** – เช่น ภาษา, โปรแกรมเฉพาะทาง, ประสบการณ์ฝึกงาน
4. **สภาวะตลาดแรงงาน** – เช่นภาวะเศรษฐกิจ ตลาด IT ยังเติบโตแม้ช่วงโควิด ([Jobcadu][3])

---

### ✅ เคล็ดลับสำหรับผู้หางาน

* ศึกษาเงินเดือนในอุตสาหกรรมที่สนใจ
* หากจบ ป.โท หรือ ป.เอก ควรขอเพิ่มจากฐาน ป.ตรี 3,000–5,000 บาท
* เพิ่มจุดแข็ง เช่น ภาษา ทักษะวิเคราะห์ โปรแกรม ทำให้เรียกเงินเดือนได้สูงขึ้น
* ต่อรองอย่างมีเหตุผล โดยยึดต้นทุนชีวิตและเป้าหมายการออมเป็นหลัก

---

**สรุป:**

* ป.6 – ป.ม.6: \~10,000 – 15,000 บาท
* ปวช./ปวส.: \~11,000 – 15,000 บาท (อาจถึง 22,000 ขึ้นกับทักษะ)
* ป.ตรี: \~15,000 – 25,000 บาท (สายเฉพาะทางสูงถึง 30,000)
* ป.โท: ป.ตรี + \~3,000 บาท
* ป.เอก: ป.ตรี + \~3,000–5,000 บาท

----------------------------------------------------

เงินเดือนเริ่มต้นสำหรับผู้จบการศึกษาในระดับต่างๆ ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับภาคส่วน (ราชการหรือเอกชน) และประเภทของงาน ซึ่งอาจแตกต่างกันตามสายงานและประสบการณ์ ด้านล่างนี้คือข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับเงินเดือนเริ่มต้นสำหรับแต่ละระดับการศึกษา โดยอิงจากข้อมูลที่มีในผลการค้นหาและแนวโน้มทั่วไปในปี 2568 (2025) โดยเฉพาะในส่วนของข้าราชการที่มีการปรับเงินเดือนใหม่ และข้อมูลจากภาคเอกชนบางส่วน:

### 1. **ประถมศึกษา (ป.6)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: โดยทั่วไป ผู้จบ ป.6 มักทำงานในตำแหน่งที่ไม่ต้องการวุฒิการศึกษาสูง เช่น งานทั่วไป, งานในโรงงาน, หรืองานบริการ เงินเดือนเริ่มต้นในภาคเอกชนมักอยู่ที่ **8,000-12,000 บาทต่อเดือน** (ใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งในปี 2568 อาจอยู่ที่ประมาณ 400-450 บาทต่อวัน หรือประมาณ 10,000-12,750 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจังหวัด) 
- **หมายเหตุ**: ผู้จบ ป.6 มีโอกาสจำกัดในงานที่ต้องการวุฒิสูง และมักไม่มีเงินเดือนเริ่มต้นที่กำหนดชัดเจนในระบบราชการ เนื่องจากงานราชการส่วนใหญ่กำหนดวุฒิขั้นต่ำที่สูงกว่านี้

### 2. **มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: คล้ายกับผู้จบ ป.6 เงินเดือนในภาคเอกชนสำหรับงานทั่วไป เช่น งานโรงงาน, งานก่อสร้าง, หรืองานบริการ อยู่ที่ประมาณ **9,000-13,000 บาทต่อเดือน** 
- **หมายเหตุ**: ผู้จบ ม.3 อาจมีโอกาสในงานที่ต้องการทักษะพื้นฐาน เช่น ช่างฝึกหัด หรือพนักงานทั่วไป แต่ในระบบราชการมักไม่เข้าเกณฑ์วุฒิขั้นต่ำ

### 3. **มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคเอกชน**: อยู่ที่ประมาณ **10,000-15,000 บาทต่อเดือน** ขึ้นอยู่กับสายงาน เช่น พนักงานขาย, งานบริการ, หรืองานธุรการพื้นฐาน 
  - **หมายเหตุ**: ผู้จบ ม.6 อาจได้รับเงินเดือนสูงกว่าผู้จบ ป.6 หรือ ม.3 เล็กน้อย เนื่องจากมีทักษะพื้นฐานที่มากกว่า แต่โอกาสในงานราชการยังจำกัด เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องการวุฒิ ปวช. ขึ้นไป

### 4. **ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคราชการ**: ตามมติ ครม. ปี 2566 ปรับเงินเดือนข้าราชการใหม่ มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 2567 
    - **ปีที่ 1 (2567)**: 10,340-11,380 บาทต่อเดือน 
    - **ปีที่ 2 (2568)**: 11,380-12,520 บาทต่อเดือน  [](https://www.moneybuffalo.in.th/economy/update-government-officer-salary-rates)
  - **ภาคเอกชน**: จากการสำรวจของ ส.อ.ท. ในปี 2558/2559 เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ **10,120 บาท** และในปี 2568 คาดว่าอาจเพิ่มขึ้นตามค่าครองชีพเป็น **12,000-15,000 บาท** ขึ้นอยู่กับสายงาน เช่น ช่างเทคนิค, งานบัญชี, หรืองานธุรการ  [](http://thaimoneyadvice.com/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259B-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3/)
- **หมายเหตุ**: งานในสายอาชีพ (เช่น ช่างยนต์, ช่างไฟ) มีความต้องการสูงในภาคเอกชน ทำให้เงินเดือนอาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยในบางกรณี

### 5. **ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคราชการ**: 
    - **ปีที่ 1 (2567)**: 12,650-13,920 บาทต่อเดือน 
    - **ปีที่ 2 (2568)**: 13,920-15,320 บาทต่อเดือน  [](https://www.moneybuffalo.in.th/economy/update-government-officer-salary-rates)
  - **ภาคเอกชน**: จากการสำรวจในปี 2558/2559 เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ **11,383 บาท** และในปี 2568 คาดว่าอยู่ที่ **15,000-18,000 บาท** หรือมากกว่าในงานที่มีความต้องการสูง เช่น ช่างเทคนิคขั้นสูง หรืองานด้านเทคโนโลยี  [](http://thaimoneyadvice.com/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259B-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3/)
- **หมายเหตุ**: ผู้จบ ปวส. มีโอกาสในงานที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง และบางครั้งอาจได้เงินเดือนใกล้เคียงหรือสูงกว่าผู้จบปริญญาตรีในบางสายงาน เนื่องจากความต้องการในตลาดแรงงาน[](https://www.admissionpremium.com/content/756)

### 6. **ปริญญาตรี (ป.ตรี)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคราชการ**: 
    - **ปีที่ 1 (2567)**: 16,500-18,150 บาทต่อเดือน 
    - **ปีที่ 2 (2568)**: 18,150-19,970 บาทต่อเดือน (ขั้นต่ำ 18,000 บาทสำหรับตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิปริญญาตรี)  [](https://www.moneybuffalo.in.th/economy/update-government-officer-salary-rates)
  - **ภาคเอกชน**: จากการสำรวจในปี 2558/2559 เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ **15,491 บาท** และในปี 2568 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ **18,000-25,000 บาท** ขึ้นอยู่กับสาขา เช่น วิศวกรรม, IT, หรือการเงินอาจได้สูงถึง **25,000-35,000 บาท**  [](http://thaimoneyadvice.com/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259B-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3/)
- **หมายเหตุ**: เงินเดือนในภาคเอกชนขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและทักษะเฉพาะ เช่น วิศวกรหรือโปรแกรมเมอร์มักได้เงินเดือนสูงกว่าสายงานทั่วไป

### 7. **ปริญญาโท (ป.โท)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคราชการ**: 
    - **ปีที่ 1 (2567)**: 19,250-21,180 บาทต่อเดือน 
    - **ปีที่ 2 (2568)**: 21,180-23,300 บาทต่อเดือน  [](https://www.moneybuffalo.in.th/economy/update-government-officer-salary-rates)
  - **ภาคเอกชน**: จากการสำรวจในปี 2558/2559 เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ **21,047 บาท** และในปี 2568 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ **25,000-40,000 บาท** ขึ้นอยู่กับสาขาและประสบการณ์ เช่น งานบริหาร, การเงิน, หรือสายวิชาการ  [](http://thaimoneyadvice.com/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259B-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3/)
- **หมายเหตุ**: ผู้จบ ป.โท มักได้เปรียบในตำแหน่งที่ต้องการความเชี่ยวชาญ เช่น งานวิจัยหรือบริหารจัดการ

### 8. **ปริญญาเอก (ป.เอก)** 
- **เงินเดือนเริ่มต้น**: 
  - **ภาคราชการ**: 
    - **ปีที่ 1 (2567)**: 23,100-25,410 บาทต่อเดือน 
    - **ปีที่ 2 (2568)**: 25,410-27,960 บาทต่อเดือน  [](https://www.moneybuffalo.in.th/economy/update-government-officer-salary-rates)
  - **ภาคเอกชน**: จากการสำรวจในปี 2558/2559 เงินเดือนเริ่มต้นอยู่ที่ **35,985 บาท** และในปี 2568 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ **40,000-60,000 บาท** หรือมากกว่าในสาขาที่มีความต้องการสูง เช่น วิศวกรรม, เทคโนโลยี, หรือการแพทย์  [](http://thaimoneyadvice.com/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%258A-%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AA-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%259B-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3/)
- **หมายเหตุ**: ผู้จบ ป.เอก มักทำงานในสายวิชาการ, วิจัย, หรือตำแหน่งบริหารระดับสูง ทำให้เงินเดือนสูงกว่าวุฒิอื่นๆ
---------------------------------------------------------
#65
**Babinski reflex** (หรือ **Babinski sign**) คือ ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ของเท้าที่สามารถใช้ในการประเมินการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะ **เส้นประสาทไขสันหลังและสมองส่วนเปลือกสมอง (corticospinal tract)**

---

### วิธีตรวจ Babinski reflex:

* แพทย์จะใช้วัตถุทื่อๆ (เช่น ด้ามค้อนตรวจ reflex) ขูดเบาๆ ที่ฝ่าเท้า เริ่มจากส้นเท้า แล้วลากขึ้นไปทางนิ้วหัวแม่เท้า (แนวด้านนอกของฝ่าเท้า)

---

### ผลการตรวจ:

#### 🔹 **ปกติในผู้ใหญ่และเด็กโต** (ระบบประสาทพัฒนาเต็มที่):

* นิ้วหัวแม่เท้างอ **ลง** (flexion) หรือไม่มีการตอบสนองใด ๆ
  → **ถือว่าปกติ**

#### 🔹 **Babinski positive** (ผิดปกติในผู้ใหญ่):

* นิ้วหัวแม่เท้า **กระดกขึ้น** (extension)
* นิ้วเท้าอื่น ๆ **กางออก** (fan out)
  → บ่งชี้ว่าอาจมี **ความเสียหายของระบบประสาทส่วนกลาง** เช่น:

  * โรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
  * ปลอกประสาทเสื่อม (multiple sclerosis)
  * บาดเจ็บไขสันหลัง

#### 🔹 **ปกติในทารกอายุ < 1 ปี**:

* ทารกมักแสดง **Babinski positive** ได้ตามปกติ
  เนื่องจากระบบประสาทยังไม่พัฒนาเต็มที่

---

### สรุป:

* **Babinski reflex เป็นเครื่องมือคัดกรองการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง**
* **พบว่าเป็นบวกในทารกเล็กเป็นเรื่องปกติ**
* **หากพบในผู้ใหญ่ → อาจบ่งชี้ความผิดปกติของสมองหรือไขสันหลัง**

----------------------------------------------------------

[Babinski Reflex Examination | Neurological Clinical Skills Tutorial](https://www.youtube.com/watch?v=y8p2Pi426Xg&utm_source=chatgpt.com)

นี่คือวิดีโอสาธิต "Babinski reflex" อย่างชัดเจนและเป็นระบบ:

* แสดงการจัดท่านอนของผู้ป่วย
* การใช้ปลายทื่อ ๆ ขูดฝ่าเท้าอย่างถูกวิธี
* การสังเกตนิ้วหัวแม่เท้าว่าดึงขึ้นหรือไม่ (ตอบสนองแบบ **positive**) และวิเคราะห์ความหมายทางคลินิก
* เหมาะสำหรับนักศึกษาแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ฝึกฝนทักษะ OSCE

---

### ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Babinski reflex

* เรียกอีกชื่อว่า **plantar reflex**
* ในผู้ใหญ่ถือว่า "ปกติ" เมื่อ **นิ้วหัวแม่เท้างอลง (flexion)** หากนิ้วหัวแม่เท้ากระดกขึ้น (extension) และนิ้วอื่นกางออก (fan out) → **เป็นผลบวก (positive Babinski)** ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการบาดเจ็บบริเวณ **corticospinal tract** ของระบบประสาทส่วนกลาง เช่น เส้นประสาทไขสันหลังหรือสมอง ([en.wikipedia.org][1], [youtube.com][2], [youtube.com][3])
* สำหรับ **ทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี** การตอบสนองแบบ extension ถือว่า **ปกติ** เพราะ corticospinal tract ยังเจริญไม่สมบูรณ์&#x20;

---

### สรุปขั้นตอนสำคัญจากวิดีโอ

1. ให้ผู้ป่วยนอนราบ (หงายเท้าชี้ตรง)
2. ใช้วัตถุ เช่น ด้ามค้อนตรวจ reflex ขูดจากส้นเท้าถึงนิ้วหัวแม่เท้า
3. สังเกตลักษณะการเคลื่อนไหวของนิ้วเท้า

* **นิ้วดึงลง** → ผลลบ (negative/not present) = ปกติในผู้ใหญ่
* **นิ้วกระดกขึ้น + นิ้วอื่นกาง** → ผลบวก (positive) = ตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ

---------------------------------------------------


#66
โดยทั่วไป **MT5 (MetaTrader 5)** จะแสดงผลราคาคู่สกุลเงินได้ **รวดเร็วและแม่นยำกว่า MT4 (MetaTrader 4)** ด้วยเหตุผลดังนี้:


เปิดบัญชี Standard ได้ที่ https://exness.com/intl/th/a/73208

---

### 🔍 เปรียบเทียบด้านความเร็วในการแสดงผลราคา

| รายการเปรียบเทียบ        | **MT4**                           | **MT5**                             |
| ------------------------ | --------------------------------- | ----------------------------------- |
| สถาปัตยกรรมระบบ          | 32-bit, รองรับ 1 เธรดหลัก         | 64-bit, multi-threaded (หลายเธรด)   |
| ความเร็วประมวลผล         | ช้ากว่าเมื่อมีหลายหน้าต่างหรือ EA | เร็วกว่าเมื่อเปิดหลายกราฟหรือ EA    |
| ความเร็วการรับข้อมูลราคา | ขึ้นกับโบรกเกอร์                  | ขึ้นกับโบรกเกอร์ แต่ระบบทันสมัยกว่า |
| ความถี่ในการอัปเดตราคา   | ต่ำกว่าเล็กน้อยในบางโบรก          | สูงกว่า / เร็วกว่าในหลายกรณี        |

---

### 💡 หมายเหตุสำคัญ:

* **ความเร็วในการแสดงผลราคาจริง** **ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์** เป็นหลัก เช่น เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้, liquidity provider, และการตั้งค่า feed ของโบรก
* หากใช้ **โบรกเดียวกัน** (เช่น Exness, IC Markets ฯลฯ) แล้วเปิดบัญชีประเภทเดียวกัน (เช่น Raw Spread) เปรียบเทียบ MT4 กับ MT5 บนเครื่องเดียวกัน — MT5 มักจะ **responsive กว่าเล็กน้อย**
* หากคุณใช้งาน **EA (Expert Advisor)** หรือเปิดหลายคู่เงินพร้อมกัน — MT5 จะประมวลผลได้ **มีประสิทธิภาพกว่า** อย่างชัดเจน

---

### ✅ สรุป:

* หากคุณต้องการ **ความเร็วและประสิทธิภาพสูงสุด** โดยเฉพาะเมื่อเทรดหลายคู่เงินพร้อมกันหรือใช้ EA — แนะนำให้ใช้ **MT5**
* หากคุณยังยึดติดกับเครื่องมือหรือ EA ที่เขียนใน MQL4 และยังไม่พร้อมย้าย — MT4 ยังใช้งานได้ดี แต่ประสิทธิภาพโดยรวมจะด้อยกว่า

----------------------------------------------------
#67
คุณสามารถตรวจสอบ **ราคาทองคำวันนี้** ได้จากหลายช่องทางหลัก ดังนี้:

---

## 🏅 เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย (GTA)

* ถือเป็นแหล่งข้อมูลหลักและเชื่อถือได้
* แสดงราคาทองแท่งและทองรูปพรรณ อัปเดตตามประกาศอย่างเป็นทางการทุกวัน ([ราคาทองคําวันนี้][1])

---

## 📝 สื่อออนไลน์และเว็บไซต์ข่าว

* **Money & Banking** รายงานว่าราคาทองรูปพรรณล่าสุด (15 ก.ค. 2568) ขายออกบาทละ **52,250 บาท** ([Money and Banking][2])
* **TNN Thailand** ระบุราคาทองแท่งและรูปพรรณ จากประกาศของสมาคมค้าทองคำ เวลา 09:05 น. ([https://www.tnnthailand.com/][3])
* มีการวิเคราะห์แนวโน้มจากนักวิเคราะห์ เช่นรายงานจาก **Post Today** เกี่ยวกับปัจจัยราคาทอง ([posttoday][4])

---

## 📱 แอปและเว็บไซต์เช็กราคาทองแบบเรียลไทม์

* **CheckGolds.com** อัปเดตราคาทองแท่ง/รูปพรรณ นาทีต่อนาที พร้อมประวัติการเคลื่อนไหว เสมือนสมาคมฯ ([checkgolds.com][5])
* **InterGOLD** ให้ข้อมูลราคาหลายเกรดทั้ง 96.5% และ 99.99% พร้อมกราฟย้อนหลัง ([InterGold][6])

---

## 💱 ห้างทองและร้านทองชื่อดัง

* **A A Gold (เอ เอ เยาวราช)** แจ้งราคาจริงแบบเรียลไทม์ และแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ (96.5%, 90%, 99.99%) ([aagold-th.com][7])
* **Bangkok Golds (บางกอกโกลด์ส)** อ้างอิงราคาจากสมาคมฯ พร้อมข้อมูลฝาก‑ถอนและราคาซื้อคืน ([bangkokgolds.com][8])

---

### 📊 สรุปช่องทางตรวจสอบ

| ช่องทาง              | ประเภท      | ข้อดี                    |
| --------------------- | ----------- | ------------------------ |
| เว็บไซต์สมาคมค้าทองฯ  | เว็บหลัก    | เชื่อถือสูง, ราคาทางการ  |
| สื่อข่าวออนไลน์      | ข่าวอัพเดต  | มีบริบทและความเคลื่อนไหว |
| แอป/เว็บเรียลไทม์    | ออนไลน์    | เคลื่อนไหวทุกนาที        |
| ร้านทอง (ร้านชื่อดัง) | สถานที่จริง | ตรวจสอบราคาซื้อขายล่าสุด |

---

✅ **แนะนำให้ใช้เว็บไซต์สมาคมค้าทองคำฯ เป็นหลัก** เพราะเป็นราคาทางการ จากนั้นสามารถเช็กราคาจากแอปหรือร้านทอง เพื่อเปรียบเทียบ และติดตามข่าววิเคราะห์ประกอบเพิ่มเติม

----------------------------------------------------
#68
"ความฝัน" กับ "จินตนาการ" แม้จะเกี่ยวข้องกับโลกในใจและสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปัจจุบัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านนิยาม ลักษณะการเกิดขึ้น และจุดมุ่งหมาย ดังนี้:

---

### 🔹 **ความฝัน (Dream)**

**นิยาม:**
– ความฝันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่เรานอนหลับ (ฝันกลางคืน) หรืออาจหมายถึงความใฝ่ฝัน ความหวัง หรือเป้าหมายในชีวิต (ฝันกลางวัน)

**ลักษณะเด่น:**
– มักเกิดขึ้นเองโดยไม่ควบคุม
– มีลักษณะคลุมเครือ ไม่เป็นเหตุเป็นผลเสมอ
– อาจสะท้อนอารมณ์ ความกังวล หรือความปรารถนาในจิตใต้สำนึก
– บางครั้งจำไม่ได้เมื่อเราตื่น

**ตัวอย่าง:**
– ฝันว่าได้บินขึ้นไปบนฟ้า
– ฝันอยากเป็นนักเขียนชื่อดัง

---

### 🔹 **จินตนาการ (Imagination)**

**นิยาม:**
– การใช้ความคิดสร้างภาพหรือแนวคิดในหัว โดยไม่ได้เกิดจากสิ่งที่รับรู้จริงในขณะนั้น

**ลักษณะเด่น:**
– เกิดขึ้นขณะตื่นและสามารถควบคุมได้
– ใช้ในการวางแผน สร้างสรรค์ หรือแก้ปัญหา
– มีความชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล และสามารถพัฒนาไปสู่ความจริงได้

**ตัวอย่าง:**
– จินตนาการว่าถ้าโลกไม่มีแรงโน้มถ่วงจะเกิดอะไรขึ้น
– จินตนาการเนื้อเรื่องนิยายก่อนเขียน

---

### 🔻 สรุปความต่างแบบกระชับ:

| แง่มุม         | ความฝัน (Dream)               | จินตนาการ (Imagination)                 |
| -------------- | ----------------------------- | --------------------------------------- |
| ช่วงเวลา       | ขณะหลับ (หรือฝันกลางวัน)      | ขณะตื่น                                 |
| การควบคุม      | ควบคุมไม่ได้ (โดยมาก)         | ควบคุมได้                               |
| จุดมุ่งหมาย    | ไม่จำเป็นต้องมีจุดมุ่งหมาย    | มีเป้าหมายหรือทิศทางที่ชัดเจน           |
| ความเป็นเหตุผล | บางครั้งไร้เหตุผล             | มีเหตุผล รองรับแนวคิดใหม่หรือสร้างสรรค์ |
| ตัวอย่าง       | ฝันว่าได้บิน, ฝันอยากเป็นดารา | คิดเรื่องโลกอนาคต, สร้างฉากในนิยาย      |

--------------------------------------------------
#69
โบรกเกอร์ Forex ที่คนไทยนิยมใช้ในปี 2025 มีหลายรายเด่น ๆ โดยพิจารณาจากการค้นหาบน Google, รีวิวในไทย และเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริง:

---

ลูกค้าใหม่ สมัครได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

## 🇹🇭 1. **Exness**

* อันดับ 1 จากการค้นหาในประเทศไทย (\~90,500 ครั้ง/เดือน) ([SAKA invest][1])
* จุดเด่น: ฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยทันที, เลเวอเรจสูง, สเปรดต่ำ, บัญชี Cent สำหรับมือใหม่ ([Trading.in.th][2])

## 2. **XM**

* อันดับ 2 จากการค้นหา (\~74,000 ครั้ง/เดือน) ([SAKA invest][1])
* มีโบนัส, บัญชีหลายประเภท, รองรับ MT4/MT5 ([ThaiForexSchool][3])

## 3. **IC Markets**

* อยู่ในท็อป 5 โบรกเกอร์ไทย; เป็นโบรก ECN สเปรดต่ำ ([Thai Broker Forex][4])

## 4. **FBS**

* ติดอันดับโบรกเกอร์ยอดนิยมไทยจากหลายแหล่ง ([ThaiForexSchool][3])
* จุดเด่น: เลเวอเรจสูงถึง 1:3000, โปรโมชั่นดี, บัญชี Cent, ฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยเร็ว ([ThaiForexSchool][3])

## 5. **Pepperstone**

* โบรกเกอร์ออสซี่ชื่อดัง ได้รับความนิยมในไทยในกลุ่มสายเทรดระดับสูง ([EasyCashbackFX][5])

## 6. **Markets4you**

* ได้รับการกล่าวถึงเป็นโบรกดาวรุ่งในไทย รองรับภาษาไทย, ฝาก-ถอนรวดเร็ว, มี copy-trading ([Trust Finance][6])

## 7. **Swissquote**

* มาจากสวิตเซอร์แลนด์ มีความมั่นคงทางการเงินสูง ได้รับความสนใจในไทยระดับมืออาชีพ&#x20;

## 8. **IUX Markets**

* โบรกสายใหม่มาแรงในไทย, อินเทอร์เฟซใช้ง่าย, ฝากถอนผ่าน QR & ธนาคาร, ได้รับใบอนุญาต FSA ([ThaiForexSchool][3])

---

### 💬 ความเห็นจากผู้ใช้จริง (Reddit)

> "Exness" ใช้งานง่าย ถอนเงินได้จริง แล้ว "trusted broker on withdraw" ใช้มาประมาณ 5 ปีแล้ว ([Reddit][7])

---

### 🧭 สรุปภาพรวม

| อันดับ | โบรกเกอร์                                | เหตุผลโดดเด่น                               |
| ------ | ---------------------------------------- | ------------------------------------------- |
| 1      | **Exness**                               | ยอดนิยมสูงสุดในไทย, ฝากถอนเร็ว, เลเวอเรจสูง |
| 2      | **XM**                                   | โปรโมชั่นดี, เหมาะมือใหม่                   |
| 3      | **IC Markets**                           | สเปรดต่ำ, ECN, เหมาะ EA/scalping            |
| 4      | **FBS**                                  | เลเวอเรจสูงสุด, โปรโมชั่นเยอะ               |
| 5      | **Pepperstone**                          | มาตรฐานสูง, เน้นมืออาชีพ                    |
| –      | **Markets4you**, **Swissquote**, **IUX** | ทางเลือกสายรอง/มืออาชีพ/น้องใหม่            |

---

### ✅ ถ้าคุณคือ...

* **มือใหม่** → เลือก **Exness** หรือ **XM** (ฝาก-ถอนง่าย, มีบัญชีทดลอง)
* **สายกลาง‑มืออาชีพ** → พิจารณา **IC Markets**, **Pepperstone**
* **ต้องการเลเวอเรจจัดเต็ม** → **FBS**
* **สาย copy-trading, fintech รุ่นใหม่** → ลอง **Markets4you**, **IUX**
* **สายศรัทธาความมั่นคงสูง** → **Swissquote**

------------------------------------------------------

#70
ข้อมูลเกี่ยวกับแอปที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในปี 2025 ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อมูลในช่วงเวลานั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงและขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่มีอยู่ถึงต้นปี 2025 สามารถสรุปแอปที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทยและทั่วโลกได้ดังนี้:

### แอปโซเชียลมีเดียและการสื่อสาร
- **LINE** และ **Facebook** ยังคงครองแชมป์ในประเทศไทย โดย LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด รองลงมาคือ Facebook ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งด้านธุรกิจและการสื่อสารในชุมชน[](https://www.inspiradigitalagency.com/th/most-popular-social-media-platforms-thailand-2025/)
- **TikTok** และ **YouTube** มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน เนื่องจากคอนเทนต์วิดีโอสั้นและความบันเทิงที่หลากหลาย[](https://www.inspiradigitalagency.com/th/most-popular-social-media-platforms-thailand-2025/)[](https://www.popticles.com/trends/most-usage-social-platform-2025/)
- **Threads** (จาก Meta) มีการเติบโตโดดเด่น โดยมีผู้ใช้งานรายเดือนถึง 320 ล้านคนในช่วงต้นปี 2025 และมียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับสอง รองจาก ChatGPT[](https://www.popticles.com/trends/most-usage-social-platform-2025/)

### แอปด้านการเงินและการธนาคาร
- แอปธนาคารและกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น แอปจากธนาคาร 7 แห่งในประเทศไทย และแอปอย่าง **Thai ID** และแอปประกันสังคม ติดอันดับการดาวน์โหลดสูงในปี 2024 และคาดว่ายังคงได้รับความนิยมในปี 2025[](https://thereporter.asia/2024/01/appsynth-20/)[](https://www.pptvhd36.com/news/%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5/244646)

### แอป AI และนวัตกรรม
- **ChatGPT** เป็นแอป AI ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแง่ของยอดดาวน์โหลดในช่วงปลายปี 2024 และคาดว่าจะยังคงเป็นผู้นำในปี 2025 ด้วยความสามารถในการตอบคำถามและสร้างเนื้อหา[](https://www.getguru.com/th/reference/best-ai-apps)[](https://www.getguru.com/reference/best-ai-apps)[](https://www.popticles.com/trends/most-usage-social-platform-2025/)
- แอป AI อื่นๆ เช่น **Claude**, **Microsoft Copilot**, **Cleo**, และ **Perplexity** ก็ได้รับความนิยมจากความสามารถในการแชทที่เป็นธรรมชาติและการให้ข้อมูลเรียลไทม์[](https://www.getguru.com/th/reference/best-ai-apps)[](https://www.getguru.com/reference/best-ai-apps)

### แอปซื้อของออนไลน์
- **TEMU** ครองแชมป์แอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในประเทศไทยทั้งบน iOS และ Android ในปี 2024 และคาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมในปี 2025 เนื่องจากกระแสการช้อปปิ้งออนไลน์[](https://www.pptvhd36.com/news/%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5/244646)

### ข้อมูลเชิงลึก
- จากรายงาน **Digital 2025** โดย DataReportal, YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยเข้าถึงกว่า 30% ของประชากรโลก และเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงหลัก[](https://www.popticles.com/trends/most-usage-social-platform-2025/)
- ผู้ใช้งานในประเทศไทยใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมง 39 นาทีต่อวันบนอุปกรณ์มือถือ โดยส่วนใหญ่ใช้แอปโซเชียลมีเดียเพื่อติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูล[](https://sigosoft.com/blog/most-popular-and-trending-mobile-apps-to-look-for-in-2025/)[](https://www.popticles.com/trends/thailand-digital-and-social-media-2025/)
- แอปที่เน้นสุขภาพ เช่น แอป telemedicine และแอปติดตามสุขภาพ มีแนวโน้มเติบโตสูงในปี 2025 เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI และความต้องการด้านสุขภาพ[](https://sigosoft.com/blog/most-popular-and-trending-mobile-apps-to-look-for-in-2025/)[](https://bizidea.co.th/article-detail?id=77)

### สรุป
แอปที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทยในปี 2025 น่าจะยังคงเป็น **LINE**, **Facebook**, **TikTok**, **YouTube**, และ **TEMU** ในหมวดโซเชียลมีเดียและช้อปปิ้ง ส่วนแอป AI อย่าง **ChatGPT** และแอปการเงินจากธนาคารต่างๆ จะยังคงครองความนิยมในด้านนวัตกรรมและการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเทรนด์และความต้องการของผู้ใช้ในช่วงเวลานั้น

----------------------------------------------------

ในปี 2025 แอปที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีผู้ใช้งานมากที่สุดคือ:

---

## 📊 แอปยอดนิยม – จำนวนดาวน์โหลด

จากรายงานล่าสุดในเดือนเมษายน 2025:

* **ChatGPT** ขึ้นแท่นแอปที่ดาวน์โหลดมากที่สุดโลก (52 ล้านครั้งในเดือนเม.ย.) ([Backlinko][1])
* **TikTok** และ **Instagram** ตามมาเป็นอันดับสองและสาม (39 ล้านครั้ง) ([Backlinko][1])

นั่นหมายความว่าในเชิงดาวน์โหลดประจำเดือน ChatGPT ก้าวนำโดดเด่นมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม AI-powdered Tools & Productivity

---

## 🌐 ยอดดาวน์โหลดรวมรายปี (นักวิเคราะห์ต่างประเทศ)

* รายงานโดย Backlinko, BestAppsToday, และ Cybrain แสดงให้เห็นว่า TikTok ยังมีดาวน์โหลดระดับ **หลักร้อยล้านต่อปี** (\~825 ล้านครั้งในปี 2024; 817 ล้านสำหรับ Instagram) ([Cybrain][2])
* BestAppsToday ระบุว่าแอปอย่าง Facebook, WhatsApp, Telegram, CapCut ก็เป็นหนึ่งในแอปยอดนิยมทั่วโลก ([bestappstoday.com][3])

---

## 📌 แอปที่ใช้งานมากที่สุด (MAU / DAU)

* **Telegram** ประกาศทะลุ 1 พันล้านผู้ใช้งานต่อเดือน (Mar 2025)&#x20;
* **Threads** ของ Meta มีผู้ใช้ 115 ล้านคนต่อวันในเดือนมิ.ย. 2025 ใกล้จะแซง **X** (132 ล้านคน) ([The Daily Beast][4])

---

## 🔎 สรุปภาพรวม

| ด้าน                                   | แอปที่โดดเด่น                                    |
| -------------------------------------- | ------------------------------------------------ |
| **ดาวน์โหลดสูงสุดประจำเดือน**          | ChatGPT                                          |
| **แอปยอดนิยมรายปี (รายงานต่างประเทศ)** | TikTok, Instagram, Facebook, WhatsApp            |
| **ผู้ใช้ต่อเดือน/วันสูงสุด**           | Telegram (1 พันล้าน MAU), Threads (115 ล้าน DAU) |

* **ChatGPT** มีความโดดเด่นในด้านความต้องการ AI tools เช่นกัน (ดาวน์โหลดเดือนเม.ย. 52 ล้านครั้ง)
* แอปโซเชียลช่วงสั้นอย่าง **TikTok**, **Instagram** ยังคงครองใจผู้ใช้ด้วยยอดโหลดระดับร้อยล้านต่อเดือน
* ด้านการใช้งานอย่างต่อเนื่อง **Telegram** เป็นแอปที่มีผู้เข้าถึงมากที่สุดในแง่ MAU

---

## ✅ สรุปสั้น

ถามว่า "แอปไหนคนใช้งานมากที่สุด" ในปี 2025:

* **ดาวน์โหลดสูงสุด**: **ChatGPT**
* **ใช้งานต่อเนื่องมากที่สุด**: **Telegram** (MAU) และ **Threads** (DAU ใกล้แซง X)
* **แอปโซเชียลยอดนิยม**: **TikTok**, **Instagram**, **Facebook**, **WhatsApp**

---------------------------------------