ข่าว:

Exness ลงทะเบียนระบบใหม่ ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208
https://www.exness.com/boarding/sign-up/a/73208?lng=th
1. เลือกประเทศ ไทย
2. อีเมล์จริงของคุณ
3. รหัสผ่าน
* รหัสผ่านต้องมีความยาว 8-15 ตัว
* ใช้ทั้งอักษรตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก
* ใช้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษ
* ห้ามใช้อักขระพิเศษ (!@#$%^&*., และอื่นๆ)
4. ใส่รหัสพาร์ทเนอร์ 73208

Main Menu

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

#51
Exness เผยปริมาณการซื้อขายรายเดือนทุบสถิติแตะ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ 13 กย. 2566

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

Exness (เอกซ์เนสส์) โบรกเกอร์ผู้ให้บริการสินทรัพย์หลากหลายประเภท รายงานว่า ปริมาณการซื้อขายรายเดือนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.521 ล้านล้านดอลลาร์ และมีจำนวนลูกค้าที่ใช้งานอยู่แตะ 625,626 รายในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากบริษัทมีปริมาณการซื้อขายทำลายสถิติในเดือนกรกฎาคม แตะ 3.91 ล้านล้านดอลลาร์ และมีจำนวนลูกค้าที่ใช้งานอยู่แตะ 571,380 ราย ตัวเลขของเดือนสิงหาคมแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการซื้อขายรายเดือนเพิ่มขึ้น 36% จากเดือนก่อนหน้า และลูกค้าที่ใช้งานอยู่เพิ่มขึ้น 9.49%

นับเป็นครั้งแรกที่โบรกเกอร์ CFD มีปริมาณการซื้อขายทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์

Exness ทำลายสถิติด้านปริมาณการซื้อขายอย่างต่อเนื่องมานานกว่าสองปี โดยเป็นโบรกเกอร์ CFD รายย่อยรายแรกที่มีปริมาณการซื้อขายแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์, 2 ล้านล้านดอลลาร์ และ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนทำลายสถิติความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัทมาจากการขยายธุรกิจไปทั่วโลกและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่ใช้งานอยู่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เดเมียน บันซ์ (Damian Bunce) ซีซีโอของ Exness กล่าวว่า "เดือนนี้ถือเป็นเดือนพิเศษสำหรับเรา โดยมีการเติบโตทำลายสถิติในเกือบทุกภูมิภาค ครอบคลุมทั้งตลาดเกิดใหม่และตลาดเดิมที่มั่นคงแล้ว นี่ส่งสัญญาณให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การเติบโตนั้นเพิ่มขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม การเติบโตของปริมาณสินทรัพย์ของเราได้รับแรงหนุนจากสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก สอดคล้องกับทิศทางธีมเศรษฐกิจมหภาคในตลาดโลก เรามีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นประวัติการณ์ทั้งในตลาดพลังงานและโลหะมีค่า และยังเป็นครั้งแรกที่เรามีปริมาณการซื้อขายคู่สกุลเงินรองสูงสุดเช่นกัน ปริมาณการซื้อขายคริปโทฯ ของเราอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ไม่ได้ทำลายสถิติใด ๆ ส่วนหุ้นและดัชนีดำเนินตามเทรนด์ปกติ"

เกี่ยวกับ Exness:

Exness เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกผู้ให้บริการสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยผสานเทคโนโลยีและหลักจริยธรรมอย่างลงตัวเพื่อสร้างตลาดชั้นดีสำหรับเทรดเดอร์และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม หลักการและวิสัยทัศน์ของ Exness มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การซื้อขายราบรื่นแก่ลูกค้า ด้วยการปรับโฉมตลาดการเงินให้มีชีวิตชีวาในแบบที่พวกเขาควรจะได้สัมผัส อัตลักษณ์และความมุ่งมั่นของ Exness ต่อทั้งโลกของเทคโนโลยีและจริยธรรม ตลอดจนฐานลูกค้าประจำที่มีจำนวนเทรดเดอร์ที่ใช้งานอยู่มากกว่า 600,000 ราย เป็นแรงผลักดันสำคัญของแบรนด์ระดับโลกรายนี้ ปัจจุบัน Exness มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน และได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การขยายตลาด

ที่มา https://www.thaipr.net/finance/3381993
#52
ผู้ใช้งาน pc vs มือถือ อะไรมากกว่ากัน

ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานมือถือมากกว่าผู้ใช้งานพีซี โดยข้อมูลจาก Statista พบว่า ในปี 2023 มีผู้ใช้งานมือถือทั่วโลกประมาณ 7.44 พันล้านคน ในขณะที่มีผู้ใช้งานพีซีประมาณ 3.95 พันล้านคน คิดเป็นอัตราส่วน 1.88:1

สาเหตุที่ผู้ใช้มือถือมากกว่าผู้ใช้พีซีนั้นมีหลายประการ ประการแรก มือถือมีราคาที่ถูกกว่าพีซีมาก ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า ประการที่สอง มือถือพกพาสะดวกกว่าพีซี ทำให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ประการที่สาม มือถือมีแอปพลิเคชันหลากหลายให้เลือกใช้งานมากกว่าพีซี

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พีซีก็ยังคงมีจำนวนไม่น้อยอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องใช้พีซีในการทำงานหรือเล่นเกม ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้พีซีที่ใช้ทำงานกราฟิกหรือตัดต่อวิดีโอ ผู้ใช้พีซีที่ใช้เล่นเกมระดับ AAA ผู้ใช้พีซีที่ใช้ทำงานด้านการเงินหรือวิศวกรรม

นอกจากนี้ แนวโน้มในอนาคต คาดว่าจำนวนผู้ใช้มือถือจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จำนวนผู้ใช้พีซีจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากเทคโนโลยีมือถือมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มือถือสามารถใช้งานในหลาย ๆ รูปแบบที่คล้ายกับพีซีได้มากขึ้น

สรุปได้ว่า ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานมือถือมากกว่าผู้ใช้งานพีซี โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจากราคาที่ถูกกว่า พกพาสะดวกกว่า และมีแอปพลิเคชันหลากหลายให้เลือกใช้งานมากกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พีซีก็ยังคงมีจำนวนไม่น้อยอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องใช้พีซีในการทำงานหรือเล่นเกม

---------------------------------------------------

ในปัจจุบัน (ปี 2023) ผู้ใช้งานมือถือมากกว่าผู้ใช้งานพีซี จากการสำรวจของ Statista พบว่ามีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกประมาณ 5.4 พันล้านคน โดยผู้ใช้มือถือคิดเป็น 4.6 พันล้านคน หรือคิดเป็น 84.8% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ในขณะที่ผู้ใช้พีซีคิดเป็น 790 ล้านคน หรือคิดเป็น 14.2%

สาเหตุที่ผู้ใช้มือถือมากกว่าผู้ใช้งานพีซี เนื่องจากความสะดวกในการใช้งาน มือถือเป็นอุปกรณ์พกพาที่ผู้ใช้สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ ทำให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ในขณะที่พีซีเป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พื้นที่ในการตั้งวาง ทำให้ผู้ใช้ต้องใช้งานพีซีอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานเท่านั้น

นอกจากนี้ มือถือยังมีแอปพลิเคชันมากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ แอปพลิเคชันการขนส่งสาธารณะ แอปพลิเคชันเกม เป็นต้น ในขณะที่แอปพลิเคชันบนพีซีส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในด้านการทำงานและการศึกษา

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้ใช้มือถือจะมากกว่าผู้ใช้งานพีซี แต่ผู้ใช้พีซีก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในด้านการทำงานและการศึกษา เนื่องจากพีซีมีหน้าจอขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่ามือถือ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องใช้ความเข้มข้นและความละเอียดสูง

สรุปได้ว่า ผู้ใช้งานมือถือมากกว่าผู้ใช้งานพีซี เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พีซียังคงมีบทบาทสำคัญในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในด้านการทำงานและการศึกษา

------------------------------------------------
วิธีการเลือกใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว (PC) หรือมือถือขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละบุคคล ดังนั้นไม่มีคำตอบที่ถูกต้องหรือผิดสำหรับทุกคน ดังนี้คือความเปรียบเทียบระหว่าง PC และมือถือในบางแง่:

1. ประสิทธิภาพ:
   - PC มักมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการประมวลผลงานที่ต้องการความสามารถในการประมวลผลที่สูง เช่น การเล่นเกมคอมพิวเตอร์, การทำงานกับซอฟต์แวร์ต้องใช้ทรัพยากรมาก เป็นต้น

2. พลังงานและเครื่องมือ:
   - มือถือมีขนาดเล็กและเครื่องมือแบบพกพา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานตอนเดินทาง แต่ PC มักมีขนาดใหญ่และต้องเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงาน ดังนั้นมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ตามสถานการณ์

3. การเล่นเกม:
   - PC มักมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์และรองรับเกมที่มีกราฟิกสูง และการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์ที่เหมาะสม
   - มือถือมีเกมมือถือที่มีคุณภาพสูงและควบคุมด้วยหน้าจอสัมผัส แต่ประสิทธิภาพอาจจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ PC

4. การทำงาน:
   - PC มักมีการทำงานกับซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนได้ดีกว่า และเหมาะสำหรับงานเชิงวิเคราะห์และสร้างสรรค์ เช่น การแก้ไขวิดีโอหรือเสียง งานด้านกราฟิก และการเขียนโปรแกรม

5. ความสะดวกสบาย:
   - มือถือมีความสะดวกสบายในการใช้งานตอนเดินทาง การทำงานระหว่างที่นั่งบนโซฟาหรือเตียง และการเข้าถึงแอปพลิเคชันและข้อมูลผ่านหน้าจอสัมผัส

6. ราคา:
   - PC มักมีราคาที่สูงกว่ามือถือที่มีสมรรถนะเทียบเคียง แต่มีหลายระดับราคาตามสเปกต์ของเครื่อง

ในที่สุด การเลือกใช้ PC หรือมือถือขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณ คุณอาจจะมีทั้ง PC และมือถือเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้ดีที่สุด.
------------------------------------------------------
#53
ข่าวสำตัญในตลาด forex จะมีผลกระทบประมาณกี่นาที

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

ผลกระทบของข่าวสำคัญในตลาด forex นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของข่าว ความคาดหวังของตลาด และปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้ว ข่าวสำคัญจะมีผลกระทบประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังจากการประกาศ

ข่าวที่สำคัญบางประเภทที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด forex ได้แก่:

* การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
* รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราการว่างงาน และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
* เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ เช่น การเลือกตั้งหรือความขัดแย้ง

หากข่าวสำคัญที่ประกาศออกมาตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ผลกระทบมักจะไม่รุนแรงนัก อย่างไรก็ตาม หากข่าวออกมาตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ผลกระทบมักจะรุนแรงกว่าและอาจทำให้ตลาดผันผวนได้อย่างมาก

ตัวอย่างเช่น หากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% แต่สุดท้าย FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สิ่งนี้จะทำให้เกิดความผิดหวังต่อตลาดและอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายในช่วงเวลานั้นยังส่งผลต่อผลกระทบของข่าวอีกด้วย หากมีการซื้อขายจำนวนมากในช่วงที่มีการประกาศข่าว ผลกระทบมักจะรุนแรงกว่า

โดยทั่วไปแล้ว นักเทรด forex ควรหลีกเลี่ยงการซื้อขายในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญ เนื่องจากตลาดอาจผันผวนและยากต่อการทำกำไร

--------------------------------------------
ข่าวสำคัญในตลาด Forex จะมีผลกระทบต่อราคาสกุลเงินและความเสถียรภายในเวลาเร็วมาก โดยผลกระทบจะขึ้นอยู่กับความสำคัญของข่าว ซึ่งถูกจัดเรียงเป็นระดับความสำคัญต่าง ๆ ตามหลักการผลกระทบมากขึ้นตามนี้:

1. **ข่าวที่สำคัญมาก (High Impact News):** ข่าวที่มีผลกระทบมากในทันทีจะส่งผลกระทบต่อราคาเงินและความเสถียรในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากประกาศ. บางครั้งอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือกำไรได้ในเวลาไม่กี่วินาทีถ้าคุณไม่ระมัดระวัง.

2. **ข่าวที่สำคัญ (Medium Impact News):** ข่าวระดับนี้อาจส่งผลกระทบในเวลา 5-15 นาทีหลังจากประกาศ ซึ่งยังมีความสำคัญแต่ไม่เสมอไปกับข่าวระดับสูง.

3. **ข่าวที่ไม่สำคัญ (Low Impact News):** ข่าวระดับนี้มักไม่มีผลกระทบในทันทีและส่วนใหญ่ไม่ได้รับความสนใจมากในตลาด Forex.

--------------------------------------------

ผลกระทบของข่าวสำคัญในตลาด forex นั้นสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของข่าว ความรุนแรงของข่าว ความคาดหวังของตลาด และสภาพตลาดในขณะนั้น

โดยทั่วไปแล้ว ข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เช่น ตัวเลข GDP อัตราเงินเฟ้อ อัตราการว่างงาน จะมีผลกระทบต่อตลาดได้นานกว่าข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือเหตุการณ์อื่นๆ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจเป็นข้อมูลที่ใช้ในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักเทรด

นอกจากนี้ ความรุนแรงของข่าวก็ส่งผลต่อระยะเวลาของผลกระทบเช่นกัน ข่าวสำคัญที่มีความรุนแรงสูง เช่น ตัวเลข GDP ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่ร้ายแรง จะมีผลกระทบต่อตลาดได้นานกว่าข่าวสำคัญที่มีความรุนแรงน้อย

สำหรับความคาดหวังของตลาดก็ส่งผลเช่นกัน หากตลาดคาดการณ์ไว้ว่าข่าวจะมีทิศทางไปในทิศทางใดแล้ว ข่าวดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อตลาดได้น้อยกว่าข่าวที่ตลาดไม่ได้คาดการณ์ไว้

และสุดท้าย สภาพตลาดในขณะนั้นก็ส่งผลเช่นกัน หากตลาดมีความผันผวนอยู่แล้ว ข่าวสำคัญอาจยิ่งทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้นและส่งผลกระทบได้นานขึ้น

ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว ข่าวสำคัญในตลาด forex จะมีผลกระทบต่อตลาดได้ประมาณ 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของข่าวอาจอยู่ได้นานกว่านั้นหรือสั้นกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ข้างต้น

สำหรับข่าวสำคัญที่จะประกาศในวันนี้ (13 กันยายน 2566) ได้แก่

* ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ไตรมาส 2 ปี 2566
* ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม 2566
* ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม 2566

หากตัวเลขเหล่านี้ออกมาตรงตามหรือดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หากตัวเลขเหล่านี้ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

นักเทรดควรติดตามข่าวเหล่านี้อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

--------------------------------------------

ผลกระทบของข่าวสำคัญในตลาด Forex นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของข่าว ความคาดหวังของตลาด และปริมาณการซื้อขายในขณะนั้น โดยปกติแล้ว ผลกระทบของข่าวสำคัญจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 นาที แต่อาจนานกว่านั้นหากข่าวนั้นมีความคาดหวังสูงหรือมีปริมาณการซื้อขายมาก

ตัวอย่างผลกระทบของข่าวสำคัญในตลาด Forex เช่น

* รายงานอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง หากตัวเลขอัตราดอกเบี้ยออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด Forex เป็นเวลาหลายชั่วโมง
* รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นเติบโตขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น
* เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ หากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ เช่น การเลือกตั้งหรือสงคราม จะทำให้ตลาด Forex ผันผวนอย่างรุนแรง

สำหรับข่าวสำคัญที่จะประกาศในวันนี้ (13 กันยายน 2566) ได้แก่

* รายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา
* รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของยุโรป

นักเทรด Forex ควรติดตามข่าวสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนของตลาด

โดยสรุปแล้ว ผลกระทบของข่าวสำคัญในตลาด Forex นั้นอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ นักเทรด Forex ควรติดตามข่าวสำคัญเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวนของตลาด

----------------------------------------
#54
สอบบัญชีทดลอง FTMO ผ่าน 200,000 USD 12 Sep 2023

เปิดบัญชีทดลอง บัญชีสอบกองทุนได้ที่ https://ftmo.com/en/?affiliates=3813

การสอบ รอบนี้ใช้ EA Buy Sell ซื้อขายทุก 100 จุด ออกไม้เยอะ และหลายคู่สกุลเงิน 7 คู่ ใช้เวลาสอบ 6 วัน

ถ้าในการสอบจริงจะใช้ 2-4 คู่เท่านั้น ไม่ให้ Max Dailly Loss ไม่เกิน 5,000 USD หรือ 2.5%

ต่อคู่สกุลเงินไม่เกิน -1%

https://trader.ftmo.com/metrix?share=14547d1d78c3&lang=en
#55
EA MT4 ตัวใหม่ V8 ,V10 ทดลองใช้งานบัญชีจริงประมาณ 1 เดือน

ได้กำไรประมาณ 6-10% Drawdown ต่ำ 2%

คัดลอก Android+iOS ได้ที่
https://social-trading.exness.com/strategy/110005030
https://social-trading.exness.com/strategy/11683846

ค่าสถิติแบบละเอียด
https://www.myfxbook.com/members/junjao/jao-ea-v10-39964-usd/10403812
https://www.myfxbook.com/members/junjao/jao-ea-v8-8885-usd/10403761


เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208
#56
EA MT4 คือ

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

"EA" ในคำว่า "EA MT4" หมายถึง "Expert Advisor" ในระบบการเทรด Forex ที่ใช้กับโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโลกการเงิน.

Expert Advisor (EA) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานใน MetaTrader 4 เพื่อทำการเทรดแบบอัตโนมัติบนตลาด Forex โดยใช้กฎระเบียบหรือกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับการโปรแกรมไว้ล่วงหน้า. คุณสามารถโหลดหรือสร้าง EA เองเพื่อใช้ใน MT4 เพื่อช่วยในการทำกำไรในตลาด Forex โดยไม่ต้องทำการเทรดด้วยตนเองตลอดเวลา แต่ควรระมัดระวังในการใช้ EA เนื่องจากการเทรดแบบอัตโนมัติยังมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา.

EA MT4 สามารถสร้างขึ้นโดยใช้ภาษาโปรแกรม MQL4 (MetaQuotes Language 4) ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้สำหรับพัฒนา EA และสคริปต์อื่น ๆ ใน MT4. EA มีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด, สั่งการซื้อหรือขายตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้, และจัดการรายการการเทรดต่าง ๆ ในโปรแกรม MT4 โดยอัตโนมัติตลอดเวลา.

----------------------------------------------------

EA ย่อมาจาก Expert Advisor เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อซื้อขายบนแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) EA ใช้อัลกอริธึมการซื้อขายเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลตลาดและตัดสินใจซื้อขายโดยอัตโนมัติ สามารถใช้เพื่อซื้อขายคู่สกุลเงิน หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์

EA มีประโยชน์หลายประการสำหรับเทรดเดอร์ ประการแรก สามารถใช้เพื่อลดเวลาและแรงงานที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายแบบแมนนวล ประการที่สอง สามารถใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะโดยการซื้อขายตามกลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบแล้ว ประการที่สาม สามารถใช้เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์การซื้อขายให้เหมาะกับความต้องการและความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

EA สามารถซื้อได้จากนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระหรือสร้างเองโดยใช้ภาษาโปรแกรม MetaTrader 4 (MQL4)

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของสิ่งที่ EA สามารถใช้ในการซื้อขาย:

การซื้อขายตามแนวโน้ม: EA สามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มในตลาดและซื้อขายตามแนวโน้มนั้น
การซื้อขายตามจังหวะ: EA สามารถใช้เพื่อระบุจุดเข้าและออกที่แม่นยำสำหรับธุรกรรม
การซื้อขายแบบสวิง: EA สามารถใช้เพื่อซื้อขายโดยใช้กรอบเวลานานขึ้น
การซื้อขายแบบสแคลping: EA สามารถใช้เพื่อซื้อขายโดยใช้กรอบเวลาสั้นลง
EA สามารถใช้เพื่อซื้อขายด้วยความเสี่ยงที่หลากหลาย เทรดเดอร์สามารถตั้งค่า EA ให้ซื้อขายด้วยความเสี่ยงน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับความชอบและความอดทนของพวกเขา

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า EA ไม่ใช่โปรแกรมมหัศจรรย์ ไม่ได้รับประกันว่าจะสร้างผลกำไร เทรดเดอร์ควรทำการวิจัยอย่างรอบคอบก่อนที่จะใช้ EA และทำการทดสอบย้อนหลังเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของ EA

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการสำหรับการใช้ EA:

ใช้ EA เท่านั้นหลังจากทำการวิจัยอย่างรอบคอบ
ทำการทดสอบย้อนหลังเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของ EA
เริ่มต้นด้วยความเสี่ยงต่ำ
ปรับแต่ง EA ให้เหมาะกับความต้องการและความเสี่ยงของคุณ
EA สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องใช้อย่างระมัดระวังและรับผิดชอบ

----------------------------------
#57
FTMO The5ers MyForexFunds / myforexfunds.com ปิดเว็บชั่วคร...
Last post by junjao - กันยายน 02, 2023, 12:08:11 PM
myforexfunds.com ปิดเว็บชั่วคราว 1-9-2566

Traders

Yesterday we learned that, without prior notice or discussion, a provincial securities regulator in Canada and the commodities regulator in the United States issued orders preventing us from trading securities or accessing funds in our bank accounts.

Until these freeze orders are lifted or modified, our business is effectively, and at least temporarily, frozen as well.

We will be reaching out to the regulators to discuss their concerns, and the first court date to determine whether the freeze orders should be lifted or modified is currently scheduled for September 11 in the US, with another hearing later that same week in Canada.

We hope to have this matter resolved as soon as possible and will update this message as events occur.

เทรดเดอร์

เมื่อวานเราได้เรียนรู้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจังหวัดในแคนาดาและหน่วยงานกำกับดูแลสินค้าโภคภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกาออกคำสั่งโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าหรือพูดคุยกันล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เราซื้อขายหลักทรัพย์หรือเข้าถึงเงินทุนในบัญชีธนาคารของเรา

จนกว่าคำสั่งระงับเหล่านี้จะถูกยกเลิกหรือแก้ไข ธุรกิจของเราก็จะมีประสิทธิภาพ และอย่างน้อยก็ชั่วคราวก็ถูกระงับเช่นกัน

เราจะติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกังวลของพวกเขา และวันที่ศาลนัดแรกเพื่อพิจารณาว่าควรยกเลิกหรือแก้ไขคำสั่งอายัดนั้นขณะนี้มีกำหนดในวันที่ 11 กันยายนในสหรัฐอเมริกา และจะมีการพิจารณาคดีอีกครั้งในสัปดาห์เดียวกันนั้นในแคนาดา

เราหวังว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเร็วที่สุดและจะอัปเดตข้อความนี้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น
#58
ATR Average True Range การคำนวณและการใช้งาน

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

ATR ย่อมาจาก "Average True Range" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเคลื่อนไหวของราคาในตลาดทางการเงิน โดยปกติแล้วใช้ในการวิเคราะห์และการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีการซื้อขายในตลาด รวมถึงการทำกำไรหรือขาดทุนในการซื้อขายเหล่านี้ด้วย

ATR คำนวณจากค่าเฉลี่ยของระยะห่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเพื่อที่จะคำนวณ ATR ในวันถัดไป จะใช้ ATR ของวันที่แล้ว และข้อมูลราคาใหม่เข้ามา เพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยใหม่

สูตรคำนวณ ATR จะดูประมาณนี้:

1. คำนวณระยะห่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละวัน (True Range):
  - True Range = ค่าสูงสุดของ (ราคาสูงสุด - ราคาต่ำสุด), |ราคาสูงสุด - ราคาปิดที่เมื่อวาน|, และ |ราคาต่ำสุด - ราคาปิดที่เมื่อวาน|

2. คำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนไหวเฉลี่ย (Average True Range):
  - ATR = เฉลี่ยเคลื่อนไหวเฉลี่ยของ True Range ในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 14 วัน)

การใช้ ATR ในการวิเคราะห์ตลาดอาจเป็นการช่วยในการปรับแผนการซื้อขายหรือการจัดการความเสี่ยง โดย ATR สามารถช่วยให้คุณเข้าใจระดับความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงเวลาที่ระบุไว้ และใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจว่าควรเปิดที่จะปิดตำแหน่งหรือปิดที่จะเพิ่มพื้นที่ของตำแหน่งในการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ไว้ได้.
---------------------------------------------------

ATR หรือ Average True Range เป็นอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคตัวหนึ่ง ซึ่งใช้วัดระดับความผันผวนของราคา โดย ATR นั้นจะคำนวณมาจาก การนำค่าที่มากที่สุด (Max) ระหว่าง

* ราคาสูงสุดของวันนี้ – ราคาปิดของวันก่อนหน้า
* ราคาปิดของวันก่อนหน้า – ราคาต่ำสุดของวันนี้
* ราคาสูงสุดของวันนี้ – ราคาต่ำสุดของวันนี้

ของแต่ละวันมาหาค่าเฉลี่ย โดยปกติมักใช้ค่ามาตรฐานกันที่ 14 วัน หรือ ATR(14)

สูตรการคำนวณ ATR มีดังนี้

```
ATR = (ATR ก่อนหน้า * (n - 1)) + TR ปัจจุบัน / n
```

โดยที่

* ATR ก่อนหน้า: ค่า ATR สำหรับช่วงเวลาก่อนหน้า
* n: จำนวนช่วงเวลาที่ใช้คำนวณ
* TR ปัจจุบัน: True Range ของช่วงเวลาปัจจุบัน

ตัวอย่างการคำนวณ ATR(14)

```
ราคาปิดของวันก่อนหน้า = 100
ราคาสูงสุดของวันนี้ = 105
ราคาต่ำสุดของวันนี้ = 95

TR ของวันนี้ = 10

ATR(14) = (10 * (14 - 1)) + 10 / 14 = 9.29
```

ATR ใช้บอกระดับความผันผวนของราคา โดยค่า ATR ที่สูงบ่งชี้ว่าราคามีความผันผวนสูง ในขณะที่ค่า ATR ที่ต่ำบ่งชี้ว่าราคามีความผันผวนต่ำ

ATR สามารถใช้ในหลายวัตถุประสงค์ เช่น

* ใช้ในการกำหนด Stop loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
* ใช้ในการกำหนดจุดเข้าออกของตลาด
* ใช้ในการระบุแนวโน้มของราคา

ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์อาจกำหนด Stop loss เป็น 2 ATR จากระดับราคาปัจจุบัน เพื่อให้ความเสี่ยงในการเทรดไม่เกิน 2 ATR

หรือ เทรดเดอร์อาจรอให้ราคาทะลุแนวต้านที่ระดับ 2 ATR ขึ้นไปก่อนจึงเข้าซื้อ เนื่องจากเป็นการบ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ

อย่างไรก็ตาม ATR เป็นเพียงเครื่องมือทางเทคนิคตัวหนึ่งเท่านั้น และไม่ควรใช้เป็นเครื่องมือเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย

-----------------------------------------------

ATR (Average True Range) เป็นเครื่องมือวัดความผันผวนของราคาในตลาด forex คู่ EUR/USD โดย ATR จะคำนวณจากค่าพิสัยแท้จริง (True Range) ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งค่า ATR นี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเทรด forex คู่ EUR/USD ได้ทั้งในด้านการวิเคราะห์แนวโน้มและการบริหารความเสี่ยง

**ประโยชน์ของ ATR ในการเทรด forex คู่ EUR/USD**

* **การวิเคราะห์แนวโน้ม**

ATR สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มของตลาด forex คู่ EUR/USD โดยหากค่า ATR มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแสดงว่าตลาดมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่แข็งแกร่งขึ้น

* **การบริหารความเสี่ยง**

ATR สามารถช่วยในการบริหารความเสี่ยงในการเทรด forex คู่ EUR/USD โดยสามารถใช้ค่า ATR เป็นเกณฑ์ในการกำหนดระดับ Stop Loss ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดสามารถจำกัดความเสี่ยงจากการขาดทุนได้

**ตัวอย่างการใช้งาน ATR ในการเทรด forex คู่ EUR/USD**

**การวิเคราะห์แนวโน้ม**

จากข้อมูลของ ATR ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ค่า ATR มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.0027 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาด forex คู่ EUR/USD มีระดับความผันผวนปานกลาง ในช่วงนี้แนวโน้มของตลาดค่อนข้างเป็นกลาง โดยยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะไปในทิศทางใด

**การบริหารความเสี่ยง**

หากนักเทรดเปิดสถานะซื้อ EUR/USD โดยใช้ค่า ATR เป็นเกณฑ์ในการกำหนดระดับ Stop Loss ที่เหมาะสม สามารถใช้ค่า ATR คูณด้วย 2.5 จะได้ระดับ Stop Loss ที่ 0.0077 ซึ่งจะเป็นระดับที่ราคา EUR/USD ต้องลดลงถึงจึงจะทำให้เกิดสัญญาณการขาดทุน

**ข้อควรระวังในการใช้ ATR**

* ATR เป็นเครื่องมือวัดความผันผวนของราคาเท่านั้น ไม่ได้บ่งชี้ถึงทิศทางของตลาด forex คู่ EUR/USD ดังนั้นนักเทรดควรใช้เครื่องมืออื่นๆ ประกอบในการวิเคราะห์แนวโน้มด้วย
* ATR เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการบริหารความเสี่ยงเท่านั้น ไม่ได้รับประกันว่านักเทรดจะไม่ขาดทุน

โดยสรุปแล้ว ATR เป็นเครื่องมือวัดความผันผวนของราคาที่มีประโยชน์ในการเทรด forex คู่ EUR/USD ทั้งในด้านการวิเคราะห์แนวโน้มและการบริหารความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรใช้เครื่องมืออื่นๆ ประกอบในการวิเคราะห์แนวโน้ม และไม่ควรใช้ ATR เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย

---------------------------------------------
#59
EA MT4 Grid ทุน 39,964 USD สามารถคัดลอกได้ Start 28 Aug 2023

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

ลูกค้าสามารถ Download app : social trading Exness ได้ ใช้ Android iOS ในการคัดลอก เริ่ม 10 USD

คัดลอกการลงทุนได้ https://social-trading.exness.com/strategy/110005030


#60
การลงทุนในตลาด forex มีความเสี่ยง คือ

เปิดบัญชี MT4 MT5 ได้ที่ https://www.exness.com/a/73208

การลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) นั้นมีความเสี่ยงตามมาด้วย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาที่ซับซ้อนและอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว นี่คือบางปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ควรพิจารณา:

1. **ความผันผวนของราคา (Volatility):** ตลาด Forex มีความผันผวนของราคาสูง ทำให้ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากในเวลาอันสั้น การผันผวนที่มากอาจสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนได้กำไรมาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจเสียเงินได้มากเช่นกัน

2. **การผันแปรในตลาด:** ราคาเงินตราสามารถถูกกระทำได้โดยหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ทางโลก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้ราคาเงินตราเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิด

3. **การล่วงเวลา (Leverage):** ตลาด Forex ให้ผู้ลงทุนใช้การล่วงเวลาเพื่อเพิ่มโอกาสในการกำไร แต่การใช้ leverage สูงก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน หากการลงทุนไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง leverage สามารถทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินมากกว่าเงินที่ลงทุนจริง

4. **ข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ:** เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสามารถกระทำราคาเงินตราได้โดยตรง ข่าวสารที่ไม่คาดคิดอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด

5. **ความเสี่ยงของเงินลงทุน:** การลงทุนในตลาด Forex อาจส่งผลให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินลงทุนได้ หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

6. **ความเสี่ยงทางการเงิน:** การลงทุนในตลาด Forex อาจทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนไว้ และอาจส่งผลให้เกิดหนี้ที่ไม่สามารถจ่ายได้

เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนในตลาด Forex คุณควร:

- ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาด Forex อย่างละเอียด
- กำหนดวัตถุประสงค์การลงทุนและยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
- ใช้เทรดในลักษณะทดลองก่อนลงทุนจริง
- บริหารความเสี่ยงและใช้การล่วงเวลาอย่างรอบคอบ

การลงทุนในตลาด Forex เป็นเรื่องซับซ้อนและควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การคำนึงถึงความเสี่ยงและการวางแผนการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีการดำเนินการอย่างมีเสถียรภาพในตลาดนี้

------------------------------------------

การลงทุนในตลาด forex มีความเสี่ยงสูง เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาค่าเงินมีความผันผวนสูงและคาดเดาได้ยาก ความเสี่ยงของการลงทุนในตลาด forex ที่สำคัญ ได้แก่

* **ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่าเงิน** ตลาด forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนสูงมาก หมายความว่าราคาค่าเงินอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงได้ หากเทรดเดอร์คาดการณ์ผิดทิศทางของราคาค่าเงิน อาจทำให้ขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว
* **ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ** เลเวอเรจเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมเงินทุนจำนวนมากได้โดยใช้เงินทุนของตนเองเพียงเล็กน้อย การใช้เลเวอเรจอาจเพิ่มผลตอบแทนได้ แต่ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน หากเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจมากเกินไปและราคาค่าเงินเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ผิด อาจทำให้ขาดทุนจำนวนมากได้
* **ความเสี่ยงจากกลโกง** ตลาด forex มีโบรกเกอร์จำนวนมากเปิดให้บริการ มีทั้งโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หากเทรดเดอร์เลือกใช้บริการโบรกเกอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน อาจตกเป็นเหยื่อของกลโกงได้

นอกจากนี้ การลงทุนในตลาด forex ยังอาจมีความเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น

* **ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย** อัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินตราต่างประเทศ หากอัตราดอกเบี้ยในประเทศใดประเทศหนึ่งสูงขึ้น จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยในประเทศใดประเทศหนึ่งลดลง จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
* **ความเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจ** สภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีผลกระทบต่อมูลค่าของเงินตราต่างประเทศ หากสภาพเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งแย่ลง จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
* **ความเสี่ยงทางการเมือง** เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศมีผลกระทบต่อมูลค่าของเงินตราต่างประเทศ หากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงขึ้น จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นผันผวนและอาจอ่อนค่าลง

ดังนั้น ผู้ที่สนใจลงทุนในตลาด forex ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

----------------------------------------
x [close]
x [close]